“สุขุมพันธุ์” ฟุ้งขอแค่ลายเซ็นเดียวแก้ปัญหาจราจร

 

“สุขุมพันธุ์” ฟุ้ง ส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง สำเร็จได้โดยไม่ง้อรัฐบาล แต่ขออย่างเดียวรัฐบาลหน้าช่วยเขียนลายเซ็นให้ กทม.เดินหน้าภารกิจระบบขนส่งมวลชน เพื่อบรรเทาปัญหาจราจร พร้อมมอบของขวัญให้คนกรุง งดเก็บค่าโดยสารส่วนต่อขยายเส้นนี้ 12 ส.ค.2554 - 1 ม.ค.2555

 

วันนี้ (4   พ.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และคณะร่วมตรวจสอบความพร้อมงานทดสอบระบบการเดินรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสาย สุขุมวิท อ่อนนุช-แบริ่ง  จากนั้นได้แวะชมจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าขนาดเบา (Ligth Rail) สายบางนา-สุวรรณภูมิ และจุดก่อสร้างทางเดินยกระดับ (Sky Walk) บริเวณแยกบางนา และออกเดินทางต่อไปยังสถานีบางจาก เป็นสถานีสุดท้าย โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า หลังวันนี้จะมีการทดลองระบบเดินรถไปอีกจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2554 จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการบริหารเต็มรูปแบบโดยไม่เก็บค่าโดยสารไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2555 ซึ่งถือเป็นการให้ของขวัญกับประชาชนจาก กทม.เพราะที่ผ่านมาประชาชนในพื้นที่เขตบางนา พระโขนงและใกล้เคียงต้องรอคอยกับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเส้นทางนี้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากติดขัดปัญหาหลายประการ แต่วันนี้สามารถเดินหน้าได้จากความร่วมมือในทุกภาคส่วน ทั้งสภา กทม.อดีตและปัจจุบันที่อนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างโดย ไม่ต้องได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอันเป็นการบ่งชี้ชัดเจนว่าองค์กรปกครอง ท้องถิ่นอย่างกทม.แม้ไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล กทม.ก็สามารถทำได้ ปฏิบัติภารกิจได้

 

“เราไม่ต้องการอะไรจากรัฐบาลมากขอแค่ลายเซ็นเดียวจากรัฐบาลก็หวังว่ารัฐบาลชุดหน้าปากกาจะลื่นขึ้นเพื่อให้กทม.สามารถดำเนินการระบบขนส่งมวลชนทั้งระบบหลัก และระบบเสริมเพื่อมาบรรเทาปัญหาจราจร” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

 

ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ กล่าวว่า ในส่วนการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารหลังจากวันที่ 1 มกราคมนั้น มีหลายสูตรในการคิดคำนวณ ซึ่งทางสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม.ได้มีการพิจารณาในส่วนของการจัดเก็บเพิ่มอีกสถานีละ 15 บาท ซึ่งสูงสุดราคาโดยสารจะอยู่ที่ 75 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่แพงมาก ขณะที่การคิดอีกรูปแบบหนึ่ง คือเริ่มต้นที่ 15 บาทจากนั้น เพิ่มอีกสถานีละ 5 บาท ซึ่งก็ยังถือว่าแพงอยู่ดีดังนั้นทางผู้บริหารจึงให้ไปทบทวนและนำมาเสนออัตรา ค่าโดยสารหลังจากที่การเลือกตั้งใหญ่เสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ตนเองเชื่อว่า หากจัดเก็บอัตราค่าโดยสารที่ 15 บาท ปีที่ 3 จะสามารถคืนทุนได้ทั้งหมดและจะมีการคิดค่าโดยสารอัตราพิเศษให้กับนักเรียน นักศึกษาผู้สูงวัย ผู้พิการอีกด้วย โดยประมาณการว่าจะมีผู้ใช้บริการ 1-1.2 แสนคน/เที่ยว/วัน

 

นายธีระชน กล่าวอีกว่า สำหรับรถไฟฟ้าขนาดเบาและรถไฟฟ้าระบบโมนโนเรลนั้น ทาง กทม.ได้ยื่นหนังสือไปที่กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ขณะนี้เรื่องก็ยังไม่ได้นำบรรจุเข้าเป็นวาระการประชุมในคณะรัฐมนตรี (ครม.) แม้ว่าทางที่ประชุมคณะกรรมการจัดการระบบจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะอนุมัติให้ท้องถิ่นสามารถทำขนส่งมวลชนระบบเสริมได้ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 ก็ตาม ซึ่งขณะนี้เหลือเพียง ครม.อนุมัติอย่างเดียว กทม.ก็สามารถเดินหน้าโครงการได้ทันที

 

ส่วนการก่อสร้างส่วนต่อขยายสายสีลม ช่วงตากสิน-เพชรเกษม ระยะทาง 5.3 กิโลเมตร คาดว่า จะสามารถเปิดใช้บริการเต็มรูปแบบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ซึ่งล่าช้าจากเดิมที่กำหนดจะเปิดให้บริการ 12 สิงหาคมพร้อมกันเนื่องจากต้องมีการออกแบบระบบใหม่เพื่อให้เชื่อมต่อกับ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินของรัฐบาล

 

สำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ประมาณเดือน พ.ย.2549 ประกอบด้วย งานทางวิ่งยกระดับ สถานี ระบบประกอบอาคารในสถานี และระบบราง โดยมีสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารทั้งหมด 5 สถานี เริ่มจากสถานีบางจาก (E10) บริเวณซอยสุขุมวิท 97 สถานีปุณณวิถี (E11) บริเวณซอยสุขุมวิท 101 สถานีอุดมสุข (E12) บริเวณซอยสุขุมวิท 103 สถานีบางนา (E13)  และสถานีปลายทางที่สถานีแบริ่ง (E14) บริเวณซอยสุขุมวิท 107  รวมระยะทาง 5.25  กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางจริงประมาณ 5 นาที เนื่องด้วยระบบอาณัติสัญญาณที่ทันสมัย โดยใช้เทคโนโลยี Communication Based Train Control (CBTC) ควบคุมการเดินรถโดยอัตโนมัติผ่านโครงข่ายสื่อสารไร้สาย (Wireless Data Network)  ที่มีประสิทธิภาพสูง เที่ยงตรง และควบคุมเวลาได้อย่างแม่นยำ รองรับการใช้งานในระยะยาว ง่ายต่อการบำรุงรักษา และมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ   ทั้งนี้ ทุกสถานียังได้ติดตั้งลิฟต์สำหรับคนพิการ และบันไดเลื่อนเพื่อเพิ่มความสะดวกในการขึ้นสู่ชานชาลาสถานีด้วย