โผล่อีกคลิปแก้กรรมแม่ชีฉาว! แก้กรรมเปรตสิง แนะใช้ไฟฟ้าช็อต-น้ำหยอดจมูก คนโพสต์ไหวตัวลบออกจากโลกโซเบอร์ ขณะที่แม่ชีฉาวเตรียมเปิดแก้กรรมในวันที่ 1 พ.ค.ที่สำนักงานวัดพิชยญาติการาม ด้านเจ้าอาวาส เผยเงินแก้กรรม “แม่ชีทศพร” ถวายวัดพิชยญาติการาม
ภายหลังจากนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เดินทางไปยังที่วัดพิชยญาติการาม (วัดพิชัยญาติ) เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เพื่อขอให้แม่ชีทศพร บุญเทวาพิทักษ์ หรือแม่ชีใหญ่ ให้ทำการปรับคำสอนและวิธีแก้กรรม เนื่องจากพบว่ามีการร้องเรียน และเผยแพร่คลิปวิดีโอคำสอนการแก้กรรม และใช้คำพูดไม่เหมาะสมจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งทางแม่ชีทศพรได้ออกมาขอโทษต่อสังคมแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 28 เม.ย.
น.ส.ลัดดา ตั้งสุภาชัย ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า นายนิพิฏฐ์ ได้สั่งการให้ตนตรวจสอบในคลิปแก้กรรมของแม่ชี และยังพบคลิปแก้กรรมที่หมิ่นเหม่อีก อาทิ คลิปแก้กรรมเปรตมาอยู่ในร่างคน หรือว่าคลิปที่สร้างความเชื่อในทางไม่ดีอีกนับสิบคลิป ซึ่งเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ตนได้เข้าไปตรวจสอบ ยังพบว่ามีการเผยแพร่อยู่ แต่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28) ปรากฏว่า คลิปดังกล่าวได้ถูกถอด และลบออกไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เจ้าของคลิปได้ลบไปเอง จะได้ไม่สร้างความเชื่อในทางไม่ดีต่อไป ในขณะที่ วธ.จากการที่ นายนิพิฏฐ์ ออกมาดำเนินการด้วยตนเอง ยังได้สั่งการให้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแม้จะลบคลิปไปหมดแล้ว วธ.ยังคงจะดำเนินการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณะสุข และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) เนื่องจากการกระทำเช่นนี้เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน เพราะมีบางคลิป เช่น คลิปแก้กรรมเปรต มีหญิงสาวมากับพ่อแม่ บอกว่ากินอะไรไม่ได้ แม่ชี้ก็บอกว่าเป็นเพราะเปรตเข้าไปสิง ปากเล็กกินอะไรไม่ได้ เลยลองให้ดูดยาคูลก็ดูดไม่ได้ เด็กสาวไม่ยอมดูด แม่ชีก็บอกว่า ถ้าไม่ดูดจะเอาไฟฟ้าช๊อต จากนั้นแม่ชีก็บอกว่าต้องกินนะ แล้วเอาน้ำใส่หลอดหยอดไปที่จมูกเด็กตลอดเวลา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบหายใจถึงกับชีวิตได้
ทั้งนี้ หากยังพบมีการเผยแพร่อีกจะต้องเอาผิดกับคนเผยแพร่ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำ ผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 มาตรา 14 เผยแพร่หลอกลวงประชาชน เจอข้อหาหลอกลวง ก่อให้เกิดความไม่สงบสุข เกิดความตื่นตระหนก และความมั่นคงของชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวทราบว่าจบแล้ว เพราะพระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ได้ตักเตือนและให้แม่ชีทศพรปรับคำสอนใหม่แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าควรดำเนินการทางวินัยกับแม่ชีด้วยนั้น คงไม่มี เพราะยังไม่มีกฎหมายใดๆ มารองรับสถานภาพของแม่ชี การบวชของแม่ชี พระสงฆ์ที่มีพรรษามากๆ สามารถบวชให้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพระอุปัชฌาย์ เพียงแต่ให้แม่ชีมารับศีล 8 โกนหัวมานุ่งขาวห่มขาวก็เป็นแม่ชีได้แล้ว ดังนั้นการลงโทษในกรณีที่เกิดขึ้นคงต้องขึ้นอยู่กับเจ้าอาวาสที่จะต้องมีการว่ากล่าวตักเตือนก่อน หากไม่เชื่อฟังก็คงต้องให้สึกออกไป
นายอำนาจ กล่าวว่า สำหรับการผลักดันกฎหมายเพื่อรองรับสถานภาพแม่ชีนั้น พศ. กำลังจัดทำร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา พ.ศ. ... โดยขณะนี้ พศ.กำลังเร่งปรับแก้รายละเอียดของ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกฤษฎีกาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะใน พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับแม่ชีด้วย คือการกำหนดสถานภาพของแม่ชี ให้มีสถานภาพเป็นนักบวช ตามหมวดที่ 4 มาตรา 35 ว่า แม่ชีต้องอยู่ภายใต้การบริหารการปกครองคณะสงฆ์ การปฏิบัติศาสนกิจของแม่ชี ให้เป็นไปตามระเบียบที่มหาเถรสมาคม (มส.) กำหนดให้รัฐสนับสนุนการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของแม่ชี อย่างไรก็ตาม การผลักดันกฎหมายฉบับนี้คงไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ ต้องรอเสนอในรัฐบาลหน้า
ทั้งนี้ หากสามารถผลักดัน พ.ร.บ.ดังกล่าวและสามารถประกาศใช้ได้นั้นก็จะ มีกฎหมายฉบับแรกมาควบคุมแม่ชี ที่สำคัญแม่ชีจะต้องปฏิบัติตามระเบียนที่กำหนดไว้ รวมทั้งจะต้องร่างกฎกระทรวงประกอบพ.ร.บ.อุปถัมภ์ฯ เพื่อคุ้มครองให้แม่ชีปฏิบัติตามระเบียบ และเชื่อว่าปัญหาต่างๆ ของแม่ชีก็จะลดน้อยลง แต่หากใครฝ่าฝืนก็จะมีบทลงโทษชัดเจน
ด้านแม่ชีอนันตา นาคบุญ กรรมการมูลนิธิสถาบันแม่ชีไทย กล่าวว่า เห็นด้วยที่ให้แม่ชีทศพรปรับเปลี่ยนวิธีการสอน เพราะคำสอนลักษณะดังกล่าวถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ตามหลักทางพระพุทธศาสนาไม่มีคำสอนและสนับสนุนให้ยุ่งเกี่ยวเรื่องชู้สาว เพราะเรื่องเพศ ชู้สาวเป็นบ่อเกิดความทุกข์และจะเป็นการยิ่งสร้างกรรมขึ้นอีก ตามหลักพระพุทธศาสนาไม่เคยสอนวิธีการแก้กรรม เพราะกรรมเกิดจากการกระทำ ใครทำใครได้ไม่มีใครสามารถแก้กรรมในอดีตที่ผ่านมาได้จะสามารถทำได้แค่ไม่ สร้างกรรมขึ้นอีก
แม่ชีอนันตา กล่าวว่า พระพุทธองค์ก็ไม่เคยแนะนำให้ใครแก้กรรม เพียงแต่สั่งสอนให้ทำความดี ทั้งนี้แม้ว่าแม่ชีทศพรไม่ได้เป็นสมาชิกและมายุ่งเกี่ยวกับมูลนิธิฯ แต่ก็อยากให้ปรับวิธีการใหม่ เพราะอาจจะกระทบต่อภาพลักษณ์ส่วนรวมของแม่ชี ที่สำคัญสถาบันแม่ชีไทยไม่สนับสนุนให้ดำเนินการเรื่องลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ เท่าที่ทราบคำสอนลักษณะดังกล่าวมีเฉพาะของแม่ชีทศพรคนเดียว ส่วนแม่ชีคนอื่นๆ ยังไม่ทราบว่ามีคำสอนที่ไม่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงายว่า ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังสำนักงานวัดพิชยญาติการามว่า แม่ชีทศพร ยังรับแก้กรรมอยู่หรือไม่ ซึ่งทางสำนักงานวัดได้แจ้งว่า แม่ชีทศพรยังคงเปิดรับแก้กรรมให้แก่ประชาชนอยู่ตามปกติ โดยในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ก็จะยังมีการเปิดแก้กรรม สำหรับจะมีการจองคิวไว้ได้หรือไม่นั้น ทางวัดแจ้งว่า จะต้องมาที่วัดมาติดต่อในส่วนของการแก้กรรมเอง.
พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม กล่าวการเผยแพร่คำสอนของแม่ชีทศพรภายในวัดว่า ได้เรียกแม่ชีทศพรมาตักเตือนและขอให้ปรับเปลี่ยนคำสอน และการนำแนะวิธีการแก้กรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งแม่ชีก็รับปากว่าจะปรับแก้ทันที ทั้งนี้ก่อนหน้าอาตมาเคยตักเตือนไปแล้วว่าควรระมัดระวังคำสอนการแก้กรรม เพราะกรรมไม่สามารถแก้ได้ภายวันสองวัน ต้องมีการปฏิบัติ แต่เชื่อว่าหลังจากตักเตือนไปน่าจะดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เนื่องจากในแต่ละอาทิตย์มีผู้มาแก้กรรมหลายพันคน เมื่อประชาชนทำบุญกับแม่ชี ทางแม่ชีนำเงินถวายวัดหรือว่าเก็บเงินไว้เอง พระพรหมโมลี กล่าวว่า ที่ผ่านมาแม่ชีได้อุปถัมภ์คอยช่วยเหลือทางวัดตลอด บริจาคเงินสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ อย่างไรก็ตามทางวัดก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเงินจึงไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าไร