ประธานเครือข่ายคนพิการเพื่อการปฏิรูป จี้รัฐบาลแบ่งเงิน “ยอดจำหน่ายลอตเตอรี่” เข้า 5 กองทุนเพื่อสังคม ช่วยเหลือ เด็ก-สตรี-คนแก่-ผู้พิการ แนะให้ย้อนกลับไปฟื้นเอาหวยการกุศลมาใช้ให้รัฐบาลออกสลาก 18 ล้านฉบับ นำเงินเอาเข้ากองทุนละ 10 ล้าน และอีกส่วนอาจนำเงินไปรณรงค์เลิกเล่นการพนัน
นายวิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานเครือข่ายคนพิการเพื่อการปฏิรูป ในฐานะคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป เปิดเผยว่า ขณะนี้งานภาคสวัสดิการสังคมในสมัชชาปฏิรูป มีข้อเสนอให้แบ่งเงินรายได้ จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) มาใช้กับสังคมต่างๆ เนื่องจากขณะนี้มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่ยังไม่ทำเรื่องนี้ และยังนำเงินรายได้จากการขายสลากกินแบ่งเข้าคลังอยู่ประเทศที่ยังให้มีการพนัน เพื่อเอาเงินเข้าคลังเป็นวิธีการแย่ที่สุด หลายประเทศจึงพยายามเอาเงินจากสลากกินแบ่งมาสู่สังคม เพราะคิดว่า เงินคนจน ต้องกลับมาสู่คนจน จึงได้นำเอาเรื่องนี้มาใช้ ซึ่งประเทศไทยก็น่าที่จะพัฒนาให้เหมือนนานาประเทศ
ประธานเครือข่ายคนพิการเพื่อการปฏิรูป กล่าวด้วยว่า สำหรับขอบเขตการใช้เงิน จะมีการแบ่งรายได้เข้ากองทุน 5 กองทุน ได้แก่ เด็ก สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และกองทุนสวัสดิการสังคม โดยย้อนหลังไปก่อนช่วงปี 2534 ที่มีสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาขายเพียง 14 ล้านฉบับ นอกนั้นเป็นหวยการกุศลทั้งหมด โดยขอแนะนำให้ย้อนกลับไปฟื้นเอาหวยการกุศลมาใช้โดยให้รัฐบาลออกสลาก 18 ล้านฉบับ นำเงินเอาเข้ากองทุนละ 10 ล้านฉบับเป็นเงิน 2,688 ล้านบาทต่อกองทุนต่อปี และส่วนหนึ่งอาจนำเงินไปรณรงค์เลิกเล่นการพนันก็ได้
“หลายคนอาจมองว่า การรณรงค์ให้เล่นหวยให้น้อยลงดูเหมือนเล่นตลก แต่ประเด็นก็คือ จะทำอย่างไรให้คนไทยเข้มแข็งโดยให้เงินมาใส่ภาคประชาชน อย่าปล่อยให้การแก้ปัญหาสังคมมาอยู่ในมือของรัฐบาลอย่างเดียว ปัญหาของประเทศไทย ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะประชาชนอ่อนแอเกินไป รัฐบาลกลางคุมอำนาจมากเกินไป การลดอำนาจรัฐบาลกลาง และเพิ่มอำนาจประชาชนโดยการให้เงินไปในภาคประชาชน จะสามารถแก้ปัญหาได้มากขึ้น” นายวิริยะ กล่าว
