“อภินันท์” ส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจร้านเกมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งในเขต กทม.และต่างจังหวัด จำนวน 496 ร้าน พบมีการปิดบริการ 135ร้าน ฝ่าฝืนกฎระเบียบ 64 ร้าน เผย เจ้าของร้านเกมส่วนใหญ่ยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบในการประกอบกิจการ พร้อมประสานขอความร่วมมือกับ กทม.ตำรวจนครบาล ตำรวจสอบสวนกลาง ในการแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อช่วยในการตรวจสอบดูแลร้านเกมได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น
ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า สวธ.ได้จัดชุดพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะกิจจากสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ออกตรวจร้านเกมในเขตกรุงเทพมหานคร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-17เมษายน ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่เจ้าของหรือผู้ดูแลร้านเกม รวมทั้งรณรงค์ ส่งเสริมให้ร้านเกมปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือช่วยกันดูแลเด็กและเยาวชน ให้ใช้บริการร้านเกมอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย โดยเมื่อวันที่12 เมษายนนั้น ได้ออกตรวจร้านเกมบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วันที่ 13 เมษายน ได้ออกตรวจร้านเกมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น และวันที่ 15 เมษายนได้ออกตรวจร้านเกมบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม และบริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จากรายงานสรุปผลการสุ่มตรวจร้านเกม ระหว่างวันที่ 12-17 เม.ย. จำนวนทั้งหมด 496 ร้าน ผลการตรวจสอบพบว่า ร้านเกมปิดให้บริการในช่วงสงกรานต์ จำนวน 135 ร้าน (27%) ในขณะที่ตรวจสอบ พบว่า มีร้านเกมที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบซึ่งเป็นโทษทางปกครอง จำนวน 64 ราย (13% ของร้านเกมที่ตรวจทั้งหมด) โดยเป็นการฝ่าฝืนไม่แสดงใบอนุญาตประกอบกิจการร้านเกม ทั้งที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว นอกจากนี้ ยังมีร้านเกมบางส่วนมีการแสดงใบอนุญาตโดยการถ่ายสำเนาเอกสาร (ไม่ได้แสดงใบอนุญาตฉบับจริง) จึงได้ตักเตือนและให้คำแนะนำโดยให้นำใบอนุญาตฉบับจริงมาแสดง ทั้งนี้ หากตรวจพบในครั้งต่อไป จะต้องถูกปรับในอัตราไม่เกิน 20,000 บาทต่อวัน ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนหากกระทำผิดซ้ำอีกจะถูกสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งจะไม่มีการผ่อนผันอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม สวธ.จะกำชับเจ้าหน้าที่ให้แจ้งผู้ที่มายื่นขออนุญาตและมารับใบอนุญาตทุกรายให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดด้วย
อธิบดี สวธ.กล่าวต่อว่า เจ้าของหรือผู้ดูแลร้านเกมที่สุ่มตรวจ ส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎระเบียบในการประกอบกิจการ สำหรับสภาพทางกายภาพของร้านเกมนั้น พบว่า ร้านเกมส่วนใหญ่สะอาด ถูกสุขลักษณะ มีห้องสุขาที่สามารถให้บริการได้อย่างเหมาะสม มีเพียงบางร้านที่ติดโปสเตอร์ หรือมีการปิดม่านด้านหน้าร้าน ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก ซึ่งทางร้านมักจะอ้างว่าเพื่อปิดบังแสงแดดซึ่งจะกระทบต่อผู้ใช้บริการและสร้างความเสียหายแก่เครื่องคอมพิวเตอร์ จึงได้แจ้งให้มีการปลดโปสเตอร์ออก และให้เปิดม่านด้านหน้าร้านตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ ทั้งนี้ สวธ.จะจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจเยี่ยม รวมทั้งเฝ้าระวังและป้องปรามการประกอบกิจการอย่างต่อเนื่องต่อไป และขอขอบคุณเจ้าของหรือผู้ดูแลร้านเกม ที่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
ศ.ดร.อภินันท์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังเป็นช่วงระยะเวลาปิดภาคการศึกษา (ช่วงปิดเทอม) ตามประกาศที่นายทะเบียนกลางกำหนด (1 เมษายน-15 พฤษภาคม 2554) ซึ่งร้านเกมสามารถให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ส่วนเด็กอายุ 15-18 ปี ใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.จึงขอให้เจ้าของและผู้ดูแลร้านเกมปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายด้วย มิฉะนั้น หากพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายออกตรวจ พบว่า ร้านเกมใดกระทำความผิดหรือฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าว นายทะเบียนมีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตครั้งละไม่เกิน 90 วัน หากกระทำผิดซ้ำอีกจะถูกเพิกถอนใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม หากประชาชนทั่วไป พบว่า มีร้านใดไม่ปฏิบัติตามกฎหมายสามารถร้องเรียนผ่านสายด่วนวัฒนธรรม โทร.1765 ได้ สวธ.จะมีพนักงานเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบร้านเกมที่ได้รับการร้องเรียน หากพบว่ากระทำความผิดหรือฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ศ.ดร.อภินันท์ กล่าวด้วยว่า การตรวจร้านเกมช่วงสงกรานต์นี้ เป็นการสุ่มตรวจเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ประกอบกับในเขตกรุงเทพมหานคร มีสถานประกอบกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์จำนวนมาก แต่กำลังเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม มีไม่เพียงพอที่จะตรวจสอบและสอดส่องดูแลได้อย่างครอบคลุมทั่วถึงตลอดเวลา ดังนั้น สวธ.จะประสานความร่วมมือและบูรณาการการดำเนินงานตามกฎหมายร่วมกับทุกหน่วยงานที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกรุงเทพมหานคร จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ประสงค์จะประกอบกิจการร้านเกม รวมทั้งผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ทุกประเภท ให้รีบมายื่นขออนุญาตและต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนก่อนจึงจะประกอบกิจการได้ โดยให้เวลาดำเนินการ 30 วันนับจากนี้ และให้ถือปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดโดยเคร่งครัดด้วย หลังจากที่ได้ประสานความร่วมมือและจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกับทุกหน่วยงานเรียบร้อยแล้ว จะเร่งรัดดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิด หรือกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายทุกกรณีโดยเคร่งครัดต่อไป