อาชีวะจับมือ ก.คมนาคม-ค่ายรถชื่อดัง จัดโครงการ “อาชีวศึกษาร่วมด้วยช่วยประชาชน” ส่งนักศึกษากว่า 5.4 หมื่นคน ตรวจเช็คสภาพรถฟรีช่วงสงกรานต์ 8-17 เม.ย.นี้ ตั้งจุดบริการถนนสายหลักทั่วประเทศ ฟรีเช็กสภาพรถ น้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก นวดผ่อนคลาย อาหาร เครื่องดื่ม แนะนำเส้นทางการท่องเที่ยว คาด ปชช.ใช้บริการแสนคน
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวหลังเป็นประธานพิธีเปิดโครงการ “อาชีวศึกษาร่วมด้วยช่วยประชาชน ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” ว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ค่ายต่างๆ เช่น อีซูซุ ฮอนด้า โตโยต้า ยามาฮ่า จัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อให้นักศึกษาอาชีวศึกษาได้นำความรู้ความสามารถที่เรียนมาออกให้บริการแก่สังคมในการตรวจสอบสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ซึ่งโครงการนี้ได้รับงบสนับสนุนจากกรมการขนส่งทางบกจำนวน 11,850,000 บาทเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงแก่นักศึกษา ค่าอะไหล่เบื้องต้น และป้ายประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์สนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ และจำหน่ายอะไหล่ให้แก่สถาบันอาชีวศึกษาในราคาต้นทุน ซึ่งมีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการประมาณ 54,000 คน และอาจารย์ประมาณ 10,000 คน
น.ส.ศศิธารากล่าวอีกว่า โครงการนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะแรกดำเนินการก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่ 21 มี.ค. - 8 เม.ย. นี้ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ทุกวัน ในวันและเวลาราชการ ณ สถานศึกษาสังกัด สอศ.ซึ่งเป็นที่ตั้งจุดบริการศูนย์อาชีวศึกษาร่วมด้วยช่วยประชาชน 300 จุดทั่วประเทศ ส่วนระยะที่ 2 ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 8-17 เม.ย. นี้ ซึ่งประชาชนเข้ารับบริการได้ทุกวัน ณ จุดบริการศูนย์อาชีวศึกษาฯ บนถนนสายหลักและสายรองจำนวน 250 จุดทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละจุดบริการนอกจากให้บริการฟรีในการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ เติมน้ำกลั่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก เปลี่ยนหลอดไฟสัญญาณ แล้ว ยังมีบริการนวดผ่อนคลาย บริการอาหาร เครื่องดื่มและแนะนำเส้นทางการท่องเที่ยวด้วยโดยศูนย์ภาคเหนืออยู่ที่ จ.เชียงใหม่ นครสวรรค์ ศูนย์ภาคกลาง ที่จ.สระบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.นครราชสีมา ศูนย์ภาคตะวันออกที่ จ.ฉะเชิงเทรา และศูนย์ภาคใต้ที่จ.ชุมพร ทั้งนี้ ดูข้อมูลที่ตั้งศูนย์ได้ที่www.vec.go.th หรือเบอร์ฉุกเฉิน 1156 ติดต่อได้ 24 ชั่วโมง
"โครงการนี้เป็นการแสดงถึงการทำงานเป็นเครือข่ายระหว่าง สอศ. กระทรวงคมนาคม และเอกชน เพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคม ช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงสงกรานต์ ปีที่แล้วมีผู้ใช้บริการโครงการนี้กว่า 82,000 คนและปีนี้คาดว่ามีผู้ใช้บริการประมาณ 100,000 คน” เลขาธิการ กอศ.กล่าว