“คุณชาย” รูดซิปปากหลังกรณีรถดับเพลิง หลัง “อนุญาโตฯ” สั่งห้ามพูด

“สุขุมพันธุ์” ปิดปากพูดคดีรถดับเพลิง หลังอนุญาโตฯ สั่งห้ามพูด ขณะที่คดีเลื่อนไปพิจารณาอีกรอบเดือน พ.ค.นี้ แต่ยันเดินหน้าตามเป้าหมายหลักที่ ป.ป.ช.ชี้มูลให้ดำเนินการเพิกถอนสัญญาซื้อขาย

 
วันนี้ (31 มี.ค.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แถลงว่า เมื่อวันที่ 22-25 มี.ค.2554 กทม.ได้เดินทางไปร่วมการพิจารณาคดีของคณะอนุญาโตตุลาการ ณ เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกี่ยวกับข้อพิพาทกรณีปัญหาการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง และอุปกรณ์ดับเพลิง มูลค่า 6,687 ล้านบาท ซึ่งมีการนำเสนอพยานหลักฐาน และข้อโต้แย้งในประเด็นข้อพิพาททางกฎหมายเบื้องต้นที่บริษัท สไตเออร์ เดมเลอร์ พุค สเปเชียล ฟาห์ซอย์ จำกัด ประเทศออสเตรีย ในฐานะบริษัทคู่สัญญา ซึ่งเป็นผู้หยิบยกข้อพิพาททางกฎหมายขึ้นมาเจรจา โดยผู้แทนฝ่าย กทม.ที่เข้าร่วมการพิจารณาคดีในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ว่าฯ กทม.พร้อมด้วย พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯ กทม.ดร.เดวิด ลอว์สัน ทนายความของ กทม. ซึ่งเป็นทนายความประจำอยู่ที่กรุงเจนีวา และคณะนักกฎหมายของ กทม.โดย กทม.ได้นำเสนอพยานบุคคลในด้านข้อเท็จจริงและพยานผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไทย ทั้งนี้ การพิจารณาคดีได้ดำเนินการรวมเป็นระยะเวลา 3 วัน จากนั้นคณะอนุญาโตตุลาการได้เลื่อนการพิจารณาและนัดการพิจารณาใหม่ในช่วงปลายเดือน พ.ค.2554

 
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า เนื่องจากขั้นตอนดำเนินการอยู่ภายใต้ข้อกำหนดที่ทุกอย่างถือเป็นความลับ ห้ามมิให้คู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดเผยพยานเอกสาร หรือคำเบิกความข้อโต้แย้งของคู่กรณี หรือรายละเอียดใดๆ ของกระบวนการพิจารณาคดี ดังนั้น จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายหลักในการดำเนินคดีของฝ่าย กทม.คือ การระงับสัญญาการซื้อขายรถ-เรือดับเพลิง และอุปกรณ์ดับเพลิง พ.ศ.2547 ตามแนวทางของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งชี้มูลให้ดำเนินการเพิกถอนสัญญาซื้อขาย และแม้ว่า กทม.จะไม่สามารถคาดการณ์ผลการพิจารณาคดีของคณะอนุญาโตตุลาการ แต่ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
 

สำหรับสาเหตุที่มีการแถลงข่าวเรื่องดังกล่าวล่าช้านั้นมาจากต้องรอให้ทางอนุญาโต ตุลาการ กรุงเจนีวา ส่งหนังสืออนุญาตให้ กทม.สามารถที่จะชี้แจงประเด็นใดได้บ้าง ซึ่งทางอนุญาโตฯได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการมา เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา และทางคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของ กทม.ก็ได้ดำเนินการแปลเพื่อความถูกต้องก่อนที่จะนำมาสู่การแถลงข่าวในวันนี้