อธิบดี ศน.เผย ลานบุญ ลานปัญญา เป็นโครงการที่ดีที่สุดที่เคยทำมา สามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึง และให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม จัดงบปี 2554 จำนวน 50 ล้านบาท ให้แก่ศาสนสถานใหม่ 400 แห่งๆ ละ 50,000 บาท ขณะที่ศาสนสถานเดิมแห่งละ 20,000 บาท ขณะที่ผู้แทนศาสนา ระบุ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่โรงละครแห่งชาติ เรืออากาศเอก สุริยะ ศึกษากิจ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้นำศาสนสถาน โครงการลานบุญ ลานปัญญา ประจำปี 2554 และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้นำศาสถานต้นแบบ 5 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พรามหณ์-ฮินดู และ ซิกข์ ประจำปี 2553 จำนวน 137 แห่งทั่วประเทศ จากทั้งหมด 600 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ
นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวถือเป็นการมอบนโยบาย และซักซ้อมความเข้าใจให้แก่ผู้แทนศาสนสถานที่ได้รับการคัดเลือกในปี 2554 ทั้งหมด 400 แห่ง ได้รับทราบแนวทางการดำเนินงานโครงการ ทั้งนี้ ศน.ได้จัดทำคู่มือการดำเนินงาน และเชิญผู้แทนศาสนสถานต้นแบบที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2553 มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดทำโครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนทั้งด้านคุณธรรม วิถีชีวิต และการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มากขึ้น แม้ปีนี้ ศน. จะได้รับจัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการเพียง 50 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่มีจำนวน 75 ล้านบาท แต่ถือว่าไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะมีการจัดสรรให้กับศาสนสถานใหม่ จำนวน 400 แห่งๆ ละ 50,000 บาท ส่วนสถานสถานเดิมจะมีการจัดสรรให้อีกแห่งละ 20,000 บาท
“ผมคิดว่าโครงการลานบุญ ลานปัญญา เป็นโครงการที่ดีที่สุดเท่าที่ ศน.เคยดำเนินการมา เพราะสามารถเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมเสนอแนวคิด และเสนอกิจกรรมที่สามารถพัฒนาชุมชน โดยมีวัฒนธรรมจังหวัดเป็นพี่เลี้ยงส่งคนไปช่วย เมื่อทำเป็นโครงการเสร็จจะส่งให้จังหวัดพิจารณาคัดเลือกโครงการ ซึ่งผมถือว่าเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการร่วมคิด ร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมในชุมชนของตนเอง แม้จะมีการปรับลดงบประมาณแต่ตนคิดว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานใดๆ” อธิบดี ศน.กล่าว
ขณะที่พระครูรัตนพงษ์วิสุทธิ์ ตัวแทนวัดคามวาสี อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ศาสนสถานต้นแบบ ปี 2553 กล่าวว่า วัดคามวาสีได้ดำเนินโครงการลานบุญ ลานบุญปัญญาใน 7 โครงการ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อชุมชน เช่น โครงการเยาวชนจิตอาสาร่วมพัฒนาท้องถิ่น การผลิตสินค้าโอทอป โดยมีประชาชน และเยาวชนใน 7 หมู่บ้านเข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาที่มีเด็กและเยาวชนในหมู่บ้านร่วมกันพัฒนาชุมชน และทุกวันศุกร์เด็กนักเรียนจะเข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนาเรียนรู้หลักธรรมในการดำเนินชีวิต ซึ่งขณะนี้มีเยาวชน และชาวบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,200 คน
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่โรงละครแห่งชาติ เรืออากาศเอก สุริยะ ศึกษากิจ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้นำศาสนสถาน โครงการลานบุญ ลานปัญญา ประจำปี 2554 และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้นำศาสถานต้นแบบ 5 ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พรามหณ์-ฮินดู และ ซิกข์ ประจำปี 2553 จำนวน 137 แห่งทั่วประเทศ จากทั้งหมด 600 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ
นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวถือเป็นการมอบนโยบาย และซักซ้อมความเข้าใจให้แก่ผู้แทนศาสนสถานที่ได้รับการคัดเลือกในปี 2554 ทั้งหมด 400 แห่ง ได้รับทราบแนวทางการดำเนินงานโครงการ ทั้งนี้ ศน.ได้จัดทำคู่มือการดำเนินงาน และเชิญผู้แทนศาสนสถานต้นแบบที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี 2553 มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดทำโครงการ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนทั้งด้านคุณธรรม วิถีชีวิต และการฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มากขึ้น แม้ปีนี้ ศน. จะได้รับจัดสรรงบประมาณดำเนินโครงการเพียง 50 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่มีจำนวน 75 ล้านบาท แต่ถือว่าไม่เป็นอุปสรรคใดๆ ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะมีการจัดสรรให้กับศาสนสถานใหม่ จำนวน 400 แห่งๆ ละ 50,000 บาท ส่วนสถานสถานเดิมจะมีการจัดสรรให้อีกแห่งละ 20,000 บาท
“ผมคิดว่าโครงการลานบุญ ลานปัญญา เป็นโครงการที่ดีที่สุดเท่าที่ ศน.เคยดำเนินการมา เพราะสามารถเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึง ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมเสนอแนวคิด และเสนอกิจกรรมที่สามารถพัฒนาชุมชน โดยมีวัฒนธรรมจังหวัดเป็นพี่เลี้ยงส่งคนไปช่วย เมื่อทำเป็นโครงการเสร็จจะส่งให้จังหวัดพิจารณาคัดเลือกโครงการ ซึ่งผมถือว่าเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการร่วมคิด ร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมในชุมชนของตนเอง แม้จะมีการปรับลดงบประมาณแต่ตนคิดว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานใดๆ” อธิบดี ศน.กล่าว
ขณะที่พระครูรัตนพงษ์วิสุทธิ์ ตัวแทนวัดคามวาสี อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ศาสนสถานต้นแบบ ปี 2553 กล่าวว่า วัดคามวาสีได้ดำเนินโครงการลานบุญ ลานบุญปัญญาใน 7 โครงการ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อชุมชน เช่น โครงการเยาวชนจิตอาสาร่วมพัฒนาท้องถิ่น การผลิตสินค้าโอทอป โดยมีประชาชน และเยาวชนใน 7 หมู่บ้านเข้าร่วมโครงการ โดยเฉพาะโครงการจิตอาสาที่มีเด็กและเยาวชนในหมู่บ้านร่วมกันพัฒนาชุมชน และทุกวันศุกร์เด็กนักเรียนจะเข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนาเรียนรู้หลักธรรมในการดำเนินชีวิต ซึ่งขณะนี้มีเยาวชน และชาวบ้านเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,200 คน
