อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เผยความคืบหน้ากรณี “ญวนอุ้มบุญ” ระบุ เชื่อ มีแพทย์เอี่ยวเรื่องรับจองท้องของหญิงชาวญวน มากกว่า 1 คน ชี้ ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ มีห้องแล็บ และบุคลากรการแพทย์อื่นๆ ช่วย กร้าว จ่อเชือดสถานพยาบาลที่อนุญาตให้ทำผิดด้วย
นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสืบสวนสถานพยาบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทของชาวไต้หวันที่หลอกหญิงชาวเวียดนามมารับฝากตั้งครรภ์ในประเทศไทย ว่า การดำเนินการในการสอบสวนขณะนี้แบ่งเป็น 2 สาย โดยสายแรก จะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสอบปากคำหญิงชาวเวียดนามทั้ง 15 คน ส่วนอีกสายหนึ่งได้ประสานขอข้อมูลไปยังสถานพยาบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ยังพบว่ามีอยู่แห่งเดียว ขณะเดียวกัน ยังต้องจับตาสถานพยาบาลบริเวณดังกล่าวด้วย เพราะเข้าข่ายที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว อย่างไรก็ตามยืนยันว่า การสอบสวนข้อมูลคืบหน้าไปมาก และจะได้ข้อสรุปก่อนที่จะมีการส่งตัวหญิงสาวเวียดนามกลับประเทศแน่นอน ส่วนแพทย์หญิงที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ในเร็วๆ นี้ จะเชิญมาให้ข้อมูล
“เรื่องนี้ไม่มีทางที่จะมีแพทย์ดำเนินการคนเดียว เพราะการดำเนินการในเรื่องนี้จะมีลักษณะคล้ายการอุ้มบุญ รวมไปถึงการทำเด็กหลอดแก้ว ซึ่งจะต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต้องมีห้องแล็บ มีบุคลากรทางการแพทย์ด้านอื่นๆ ช่วยดำเนินการด้วย ในส่วนของสถานพยาบาลนั้น แม้ว่าจะไม่รู้เรื่อง แต่หากมีการดำเนินการในสถานพยาบาลก็จะถือว่ามีความผิด เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล มาตรา 34(2) ที่หากสถานพยาบาลที่อนุญาตให้มีการทำผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” นพ.สมชัย กล่าว
นพ.สมชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ทางมูลนิธิพิทักษ์สิทธิสตรี ยังนำข้อมูลมาให้ตนเพิ่มเติมด้วยว่าทางบริษัทชาวไต้หวันที่ดำเนินการเรื่องนี้ นอกจากใช้วิธีนำเชื้ออสุจิ และไข่ของผู้ที่ต้องการจะมีลูกมาฝากให้หญิงชาวเวียดนามตั้งครรภ์แล้ว ยังมีการดำเนินการในลักษณะที่ให้นำเชื้ออสุจิมาฉีดลงในผู้หญิง ซึ่งทางบริษัทดังกล่าวจะมีรูปแคตตาล็อกผู้หญิงให้เลือก เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกหน้าตาของผู้หญิงได้ด้วย