“จุรินทร์” สั่งสอบ รพ.เอกชนย่านมีนบุรี อ้างเป็นแหล่งผสมเทียมหญิงเวียดนาม

รมว.สธ.มอบแพทยสภาตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนย่านมีนบุรี ที่ถูกอ้างว่าเป็นแหล่งผสมเทียมให้หญิงชาวเวียดนาม ระบุหากตรวจพบแพทย์กระทำผิดจริง ถือว่าผิดจรรยาบรรณ มีโทษถึงขั้นยึดใบประกอบโรคศิลปะ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงคดีบริษัทรับตั้งครรภ์โดยจัดหาหญิงชาวเวียดนามหลอกเข้ามาทำงานในไทย แต่ถูกบังคับให้อุ้มบุญด้วยการตั้งครรภ์ว่า จะมีผลกระทบอย่างยิ่งทั้งผู้ที่ตกเป็นเหยื่อและวงการแพทย์ไทย เนื่องจากการอุ้มบุญโดยหญิงที่ไม่ใช่พ่อแม่หรือญาติพี่น้องถือว่าผิดกฎหมาย และที่สำคัญแพทย์ที่กระทำการโดยฝ่าฝืนกฎหมายผสมเทียมให้เกิดการตั้งครรภ์ โดยที่เชื้อนั้นไม่ได้มาจากพ่อแม่ของผู้ตั้งครรภ์โดยตรงก็ถือว่าผิดจรรยาบรรณแพทย์ ซึ่งล่าสุดได้มอบหมายให้แพทยสภา เร่งตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนย่านมีนบุรี ที่ถูกอ้างว่าเป็นแหล่งผสมเทียม และเพาะน้ำเชื้อของการอุ้มบุญครั้งนี้ หากพบว่าแพทย์กระทำผิดจริงมีสิทธิ์ถึงขั้นยึดใบประกอบโรคศิลป์ นอกจากนี้ยังมอบหมายให้โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี เป็นผู้เข้าไปดูแลรับผิดชอบในด้านสุขภาพอนามัยของหญิงตั้งครรภ์ชาวเวียดนามทั้งหมด เพื่อให้ทั้งเด็กในครรภ์และแม่ปลอดภัยสมบูรณ์ อีกทั้งยังเยียวยาสภาพจิตใจที่หลายคนต้องถูกข่มขืนก่อนการผสมเทียมอุ้มบุญด้วย

ขณะที่รองศาสตราจารย์แพทย์หญิงประสบศรี อึ้งถาวร อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยว่า กฎหมายการอุ้มบุญของแพทยสภาปี 2540 ระบุไว้อย่างชัดเจนเป็นกรณีพิเศษ 3 แนวทางเท่านั้น คือ 1.ต้องเป็นการอุ้มบุญโดยน้ำเชื้อต้องมาจากพ่อ-แม่เท่านั้น 2.เป็นการนำเชื้อของพ่อแม่มาสกัดโดยตรง 3.หากผู้เป็นแม่ไม่สามารถอุ้มบุญได้ ก็ต้องให้ญาติและผู้ที่อยู่ในเครือญาติและสายเลือดเดียวกันเป็นผู้อุ้มบุญทดแทนกัน โดยไม่มีค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น