xs
xsm
sm
md
lg

“บ้านแซว” ไม่ทิ้งกัน อสม.ดูแลถึงชานเรือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

1.อสม.ทีมนวดแผนไทย ดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์-อัมพาตถึงบ้าน
ย้อนหลังกลับไปเมื่อราว 2-3 ปีก่อน ชาวบ้านล้มป่วยมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมด มีผู้ป่วยเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตเกือบ 50 ราย และมีแนวโน้มป่วยเพิ่มขึ้น ทางสถานีอนามัย รพ.เชียงแสน อสม.และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข จึงร่วมกันค้นหาต้นเหตุการเจ็บป่วย พบว่า ชาวบ้านมีสารพิษตกค้างอยู่ในกระแสเลือด คาดว่าสารพิษมาจากยาฆ่าแมลงเพราะชาวบ้านพ่นยาถี่ ทุกๆ 5 วัน 7 วันโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันตนเอง

นายสมควร สุตะวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแซว จังหวัดเชียงราย ฉายภาพการเจ็บป่วยของชาวบ้าน พร้อมกับบอกว่า มีผู้ป่วยบางรายรู้สึกท้อแท้ในชีวิต ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คิดสั้น อยากฆ่าตัวตาย เพราะทุกข์ทรมานกับอาการป่วย ซ้ำร้ายยังยากจน ไม่มีญาติคอยดูแล

“ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีฐานะยากจน มีปัญหาด้านคมนาคม พวกเราระดมสมองเพื่อหาทางเยียวยาผู้ป่วยและป้องกันผู้ที่แข็งแรงไม่ให้เกิดการเจ็บป่วย จึงริเริ่มโครงการสมุนไพรครัวเรือน เริ่มจากให้ทุกครัวเรือนปลูกรางจืดไว้กิน พอชาวบ้านกินไประยะหนึ่ง เจ้าหน้าที่มาเก็บเลือด ปรากฏว่า ผลเลือดที่มีสารพิษตกค้างในกระแสเลือดลดลงเรื่อยๆ” นายสมควรอธิบาย
ประคบร้อน
นายก อบต.บ้านแซว ยังกล่าวต่อด้วยว่า พวกเขาคิดว่าการดำเนินนโยบายนี้เป็นการเดินมาถูกทาง จึงต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้กุศโลบายให้ชาวบ้านปลูกสมุนไพรหลายชนิด รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญการปลูกพืชโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ สมุนไพร แทนการใช้ยาฆ่าแมลง

“ชุนชมมี อสม.เสียสละเข้าไปดูแลผู้ป่วยทั้งร่างกายและจิตใจถึงบ้าน โดยที่พวกเขามีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร บางครั้งไปพบผู้ป่วยยากจนไม่มีอาหารกินยังต้องควักเงินเพื่อซื้อข้าวสารอาหารแห้งให้ จึงตั้ง กองทุน อสม.“ออมวันละบาท” เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ด้อยโอกาส และเป็นค่าน้ำมันรถ ค่าอาหารอันที่จริงกองทุนนี้เป็นการให้ตามกำลังศรัทธา ใครมีมากก็ให้มาก มีน้อยก็ให้น้อย แล้วแต่สมัครใจ เดือนหนึ่งมีเงินเข้ากองทุน 3-4 พันบาท”

ด้านสุนันทา ศรีสุพล ในฐานะ อสม. ให้ภาพการทำงานว่า พวกเธอทำงานเป็นทีมๆ ละ 4-5 คน มีแพทย์ 1 คน ที่เหลือเป็น อสม.กับผู้นวดแผนไทย โดยเธอนั้นเป็นอาสาสมัครอสม.แผนกนวดแผนไทยเช่นกัน และเมื่อหมอตรวจคนไข้เสร็จ อสม.จะมีหน้าที่ช่วยลงบันทึกอาการเจ็บป่วย หากหมอวินิจฉัยว่าป่วยหนักถึงขั้นต้องส่งโรงพยาบาล อสม.จะช่วยกันพาคนป่วยส่งโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต จะนวดแผนไทยเพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยด้วย
เข้าถึงทุกชานเรือน
“มีผู้ป่วยอัมพฤกษ์รายหนึ่งก่อนที่จะบำบัดด้วยนวดแผนไทย เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ญาติต้องคอยดูแลทุกอย่าง พอนวดแผนไทยผสมประคบร้อน 3 ครั้ง ผู้ป่วยเริ่มขยับแขนขาได้บ้างและเริ่มช่วยเหลือตัวเองได้ ขณะที่คนไข้บางรายนอนป่วยนานนับเดือน จะมีแผลกดทับ เราจะไปทำแผลให้ทุกวัน เราจะสอนให้ญาติรู้จักวิธีดูแลผู้ป่วยอย่างถูกวิธี เช่น การทำแผล หรือนวดแผนไทย ป้องกันเส้นยึด” สุนันทา เล่า

อสม.รายนี้เล่าด้วยน้ำเสียงภูมิใจว่า เธอ และทีม อสม.รู้สึกหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นคนป่วยเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้ คนป่วยยิ้มพร้อมน้ำตาไหลด้วยความดีใจ ซึ่งปัจจุบันคนไข้สามารถลุกขึ้นมาทำงาน และไม่เป็นภาระแก่ครอบครัว

“การช่วยเหลือคนป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ทำให้รู้สึกภูมิใจและตั้งใจทำหน้าที่ อสม.จะพยายามขวนขวายหาความรู้เกี่ยวกับการดูแลฟื้นฟูคนป่วยต่อไป” สุนันทา กล่าว

ด้าน นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ชุมชนบ้านแซวถือว่าเป็นชุมชนต้นแบบ “เพื่อนช่วยเพื่อนที่เจ็บป่วย” และยังเป็นต้นแบบชุมชนส่งเสริมการใช้สมุนไพร ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาการใช้ยาสมุนไพรเบื้องต้นสำหรับประชาชนในชุมชนเพื่อการพึ่งตนเอง สบส.เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขมูลฐาน ที่มุ่งเน้นให้แต่ละครัวเรือนดูแลรักษาสุขภาพเบื้องต้นด้วยยาสมุนไพรไทยก่อนที่จะเข้ารับการรักษาจากแพทย์
กำลังโหลดความคิดเห็น