“อิสสระ” เยี่ยม 15 หญิงชาวเวียดนามเหยื่อรับจ้างอุ้มบุญ ชี้ อยู่ในความดูแลบ้านเกร็ดตระการ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ ก่อนให้ปากคำศาล พบทุกรายเพิ่งทำครั้งแรก ระบุ หญิงท้องแก่ขอกลับไปคลอดที่บ้านเกิด พร้อมส่งบุตรให้พ่อแม่ที่แท้จริง ขณะที่มี 2 รายขอทำแท้ง ย้ำพร้อมรับดูแลอย่างเต็มที่ จนกว่าคดีจบ
วันนี้ (27 ก.พ.) นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พร้อมผู้บริหารกระทรวง เดินทางเข้าเยี่ยมหญิงชาวเวียดนาม ซึ่งถูกหลอกเข้ามาทำงานในประเทศไทย และถูกบังคับให้รับจ้างอุ้มบุญ ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดย นายอิสสระ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พม.ได้เข้าทำการช่วยเหลือผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นหญิงต่างด้าวสัญชาติเวียดนาม ถูกกักขังและบังคับ ขู่เข็ญ จากแก๊งผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ให้ทำงานรับจ้างอุ้มบุญ โดยจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินประมาณ 100,000 บาท แต่ถ้าไม่ทำงานต้องชดใช้เงินประมาณ 30,000 บาท และไม่ให้เดินทางกลับประเทศ ซึ่งเหยื่อจะถูกนายจ้างยึดหนังสือเดินทางไว้ทุกราย บางรายถูกนายจ้างข่มขืน ก่อนจะได้ทำงาน เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยเหลือหญิงดังกล่าว และนำส่งเข้ารับการคุ้มครองในสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ จำนวน 13 ราย ซึ่งล่าสุดมาเพิ่มมาอีก 2 ราย รวมเป็น 15 ราย ในจำนวนนี้ อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ 7 ราย คลอดบุตรแล้ว 2 ราย และที่ไม่ได้ตั้งครรภ์อีก 6 ราย
นายอิสสระ กล่าวอีกว่า จากกรณีการรับจ้างอุ้มบุญนี้ในประเทศไทย ถือว่าเป็นความผิดอาญา ฐานกระทำการค้ามนุษย์ ในระหว่างนี้ จึงให้อยู่ให้ในความดูแลของสถานคุ้มครองฯ บ้านเกร็ดตระการ เพื่อทำการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และให้ปากคำต่อศาลในฐานะผู้เสียหาย เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จากการเยี่ยมเยียนสอบถาม ทราบว่า ทั้งหมดเพิ่งรับจ้างอุ้มบุญเป็นครั้งแรก โดยเป็นหญิงที่ผ่านการมีครอบครัวแล้ว 8 ราย ในจำนวนนี้มีบุตรแล้ว 5 ราย ในส่วนของวิธีการอุ้มบุญนั้น เหยื่อไม่ทราบว่าใช้วิธีการใด ทราบแต่เพียงว่า รู้สึกเจ็บมากในขณะที่ทำ โดยกลุ่มลูกค้าเป็นชาวอเมริกันและไต้หวัน ทั้งนี้ ผู้เสียหายที่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์มากแล้ว แจ้งว่า ต้องการกลับไปคลอดที่ประเทศเวียดนาม และส่งบุตรคืนกลับให้พ่อแม่ที่แท้จริง ซึ่งในส่วนนี้ยังเป็นปัญหาในการสืบหา เนื่องจากยังจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวไต้หวันไม่ได้ และในส่วนของหญิงที่อายุครรภ์ไม่มาก ประสงค์ขอยุติการตั้งครรภ์ด้วยการทำแท้งอีก 2 ราย
“ในระหว่างนี้ พม.จะให้การดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยให้การเยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจ และประสานกับโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพแม่และเด็กที่อยู่ในครรภ์เป็นระยะๆ ซึ่งในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ผู้แทนจาก พม.จะได้ร่วมหารือกับผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สตม.ดีเอสไอ กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตเวียดนาม เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ต่อไป” รมว.พม.กล่าว