“ศูนย์คุณธรรม” จัดห้องสมุดศูนย์คุณธรรมทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 16 เครือข่าย พร้อมสนับสนุนสื่อด้านคุณธรรม จริยธรรม หวังดึง นร. นศ. ปชช.ศึกษาหาความรู้และเป็นการส่งเสริมรักการอ่าน
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวมอบนโยบายในการประชุมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานโครงการเครือข่ายห้องสมุดศูนย์คุณธรรม ให้แก่ 16 หน่วยงาน ปีงบประมาณ2554 ว่า ศูนย์คุณธรรมได้ดำเนินโครงการเครือข่ายห้องสมุดศูนย์คุณธรรม มาตั้งแต่ปี 2551 โดยในปี 2554 ได้มีการขยายห้องสมุดศูนย์คุณธรรม ออกไปสู่ภูมิภาคทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 16 เครือข่าย โดยมีการสนับสนุนสื่อด้านคุณธรรม จริยธรรม ได้แก่ หนังสือ วารสาร และสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ไว้ให้บริการ ทำให้ปัจจุบันจำนวนห้องสมุดศูนย์คุณธรรม มีจำนวนทั้งสิ้น 96 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ตนจึงมอบนโยบายให้หน่วยงานต่างๆที่จัดตั้งห้องสมุด ไม่ควรปล่อยมุมหนังหนังสือไว้เฉยๆ โดยเปล่าประโยชน์ แต่ควรที่จะต้องทำให้มุมหนังสือคุณธรรมมีความน่าสนใจ และสามารถดึงนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ให้เข้ามาศึกษาหาความรู้ และใช้ประโยชน์มุมหนังสือคุณธรรมมากที่สุด
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นตนอยากให้เครือข่ายต่างๆ ผลิตต้นแบบของการเผยแพร่เนื้อหาสาระในหนังสือที่อยู่ในห้องสมุดคุณธรรม โดยเฉพาะหากเป็นมุมหนังสือ ที่ตั้งอยู่ในวัด พระสงฆ์ ก็ควรที่จะเป็นต้นแบบของการศึกษาหนังสือดังกล่าว และนำมาเล่าเผยแผ่ หรือ ชักชวน ให้พระภิกษุ และสามเณร ภายในวัดได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ขณะที่ในส่วนของสถานบันการศึกษา ทั้งโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย ก็ควรที่จะมีครู อาจารย์บรรณารักษ์ หรือ ผู้นำนักศึกษา มาอ่านหนังสือ และชักชวน เพื่อนๆ ให้เข้ามาใช้บริหารมุมหนังสือคุณธรรมเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ควรจะต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องที่น่าสนใจ มีการจัดฉายวีดิทัศน์ ให้มีความสอดคล้องกับการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ช่วยผลักดันให้คนไทยหันมาสนใจมุมหนังสือคุณธรรมมากขึ้น
“ทุกวันนี้เห็นได้ว่าเด็กไทย ไม่ชอบอ่านหนังสือ ยิ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมก็ยิ่งไม่สนใจ ดังนั้นเราจำเป็นต้องหาตัวช่วยมาดึงดูดที่น่าสนใจมาใช้กับมุมคุณธรรม และที่สำคัญ ผมต้องการให้แต่ละเครือข่าย ผลิตตัวชี้วัด ของมุมหนังสือคุณธรรม โดยมีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการ และจัดทำการประเมินผลการใช้บริการของประชาชน เพื่อให้นำข้อมูลดังกล่าวมารายงานกับผม เพื่อที่จะสามารถทราบได้ว่ามุมหนังสือคุณธรรมมีประสิทธิภาพหรือไม่ และสามารถทำมาใช้ในการพิจารณาลด หรือเพิ่มงบประมาณดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป” นายปราโมทย์ กล่าว
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) นายปราโมทย์ วิทยาสุข ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ กล่าวมอบนโยบายในการประชุมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานโครงการเครือข่ายห้องสมุดศูนย์คุณธรรม ให้แก่ 16 หน่วยงาน ปีงบประมาณ2554 ว่า ศูนย์คุณธรรมได้ดำเนินโครงการเครือข่ายห้องสมุดศูนย์คุณธรรม มาตั้งแต่ปี 2551 โดยในปี 2554 ได้มีการขยายห้องสมุดศูนย์คุณธรรม ออกไปสู่ภูมิภาคทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 16 เครือข่าย โดยมีการสนับสนุนสื่อด้านคุณธรรม จริยธรรม ได้แก่ หนังสือ วารสาร และสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ไว้ให้บริการ ทำให้ปัจจุบันจำนวนห้องสมุดศูนย์คุณธรรม มีจำนวนทั้งสิ้น 96 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ ตนจึงมอบนโยบายให้หน่วยงานต่างๆที่จัดตั้งห้องสมุด ไม่ควรปล่อยมุมหนังหนังสือไว้เฉยๆ โดยเปล่าประโยชน์ แต่ควรที่จะต้องทำให้มุมหนังสือคุณธรรมมีความน่าสนใจ และสามารถดึงนักเรียน นักศึกษา และประชาชน ให้เข้ามาศึกษาหาความรู้ และใช้ประโยชน์มุมหนังสือคุณธรรมมากที่สุด
นายปราโมทย์ กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นตนอยากให้เครือข่ายต่างๆ ผลิตต้นแบบของการเผยแพร่เนื้อหาสาระในหนังสือที่อยู่ในห้องสมุดคุณธรรม โดยเฉพาะหากเป็นมุมหนังสือ ที่ตั้งอยู่ในวัด พระสงฆ์ ก็ควรที่จะเป็นต้นแบบของการศึกษาหนังสือดังกล่าว และนำมาเล่าเผยแผ่ หรือ ชักชวน ให้พระภิกษุ และสามเณร ภายในวัดได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ขณะที่ในส่วนของสถานบันการศึกษา ทั้งโรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย ก็ควรที่จะมีครู อาจารย์บรรณารักษ์ หรือ ผู้นำนักศึกษา มาอ่านหนังสือ และชักชวน เพื่อนๆ ให้เข้ามาใช้บริหารมุมหนังสือคุณธรรมเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ควรจะต้องมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องที่น่าสนใจ มีการจัดฉายวีดิทัศน์ ให้มีความสอดคล้องกับการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ช่วยผลักดันให้คนไทยหันมาสนใจมุมหนังสือคุณธรรมมากขึ้น
“ทุกวันนี้เห็นได้ว่าเด็กไทย ไม่ชอบอ่านหนังสือ ยิ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมก็ยิ่งไม่สนใจ ดังนั้นเราจำเป็นต้องหาตัวช่วยมาดึงดูดที่น่าสนใจมาใช้กับมุมคุณธรรม และที่สำคัญ ผมต้องการให้แต่ละเครือข่าย ผลิตตัวชี้วัด ของมุมหนังสือคุณธรรม โดยมีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการ และจัดทำการประเมินผลการใช้บริการของประชาชน เพื่อให้นำข้อมูลดังกล่าวมารายงานกับผม เพื่อที่จะสามารถทราบได้ว่ามุมหนังสือคุณธรรมมีประสิทธิภาพหรือไม่ และสามารถทำมาใช้ในการพิจารณาลด หรือเพิ่มงบประมาณดำเนินการโครงการดังกล่าวต่อไป” นายปราโมทย์ กล่าว