xs
xsm
sm
md
lg

บำรุงผู้สืบทอดพระศาสนา ด้วย “ภัตตาหารสุขภาพ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเล็กๆ ทว่าน่ากังวลใจยิ่งข่าวหนึ่ง ที่ระบุว่า ในปัจจุบันมีสามเณรป่วยด้วยโรคอ้วน และภาวะความดันโลหิตสูงเพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนสงสัยถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ซึ่งคำตอบส่วนหนึ่งที่ได้ คือ ความเข้าใจผิดของบรรดาพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธานั่นเอง
 

พญ.วราภรณ์ ภูมิสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ เปิดเผยว่า นอกจากการรักษาพยาบาล พระภิกษุ และสามเณรอาพาธแล้ว โรงพยาบาลยังได้ทำงานเชิงรุก เข้าไปสำรวจสถานการณ์สุขภาพของพระภิกษุ-สามเณร ตามวัดต่างๆ ด้วย โดยทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2549 และทำมาทุกปี ล่าสุด ได้พบข้อมูลว่า สามเณรจำนวนไม่น้อยมีภาวะอ้วน และหลายรูปพบความดันโลหิตสูงขึ้นด้วย

“สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจากภัตตาหารที่เราถวาย ยังคงมีพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่งยังมีความเชื่อในการถวายภัตตาหาร โดยจะเลือกชนิดอาหารตามความชอบของบุคคลผู้ล่วงลับ และอีกจำนวนไม่น้อยที่อยากทำบุญ แต่ไม่ได้ดูว่าอาหารที่นำไปถวายนั้นมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อพระภิกษุ-สามเณร ฉันเข้าไปแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง หรือเมื่อฉันเข้าไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายหรือไม่”

ผอ.รพ.สงฆ์ ฉายภาพการทำบุญใส่บาตรของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ที่มีเวลาน้อย แต่มีจิตศรัทธาอยากทำนุบำรุงพระศาสนา ด้วยการบำรุงผู้สืบทอดศาสนาด้วยภัตตาหาร หากแต่มีเวลาน้อย ด้วยสภาวะสังคมที่เร่งรีบ ก็อาจจะละเลยที่จะใส่ใจพิจารณาอาหารที่จะนำไปใส่บาตร หลายคนเลือกที่จะซื้อหาอาหารที่ปรุงสำเร็จแถวบ้าน หลายร้านจัดใส่จานไว้สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อใส่บาตรโดยเฉพาะ มีข้าว มีน้ำ มีกับข้าว ซึ่งสะดวก แต่นั่นจะยิ่งทำให้ผู้ใส่บาตร ไม่ได้พิจารณามากนักว่าในสำรับนั้นมีอะไร

“ยิ่งถ้าที่ไหนมีทำบุญใส่บาตรหลายๆ สิบรูป หรือเป็นร้อยรูป นอกจากข้าวสารแล้ว สิ่งที่นิยมมาก คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก และมีโซเดียมสูง หากภิกษุ-สามเณร ฉันมากๆ ก็อาจจะมีภาวะอ้วนจากแป้งและความดันโลหิตสูงจากโซเดียมได้”

พญ.วราภรณ์ ได้แนะนำฝากไปถึงพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา ว่า วอนให้พิจารณาหรือใส่ใจอาหารที่จะใส่บาตร ขอให้เลือกเป็นผัก ผลไม้ และที่น่าห่วง คือ พฤติกรรมที่บางคนเห็นสามเณรน้อยบิณฑบาตก็นึกเอ็นดูแกมศรัทธา ใส่บาตรเป็นขนมหวานๆ จำพวกขนมไทย อันนี้ยิ่งทำให้สามเณรฉันเข้าไปมากๆ ก็จะอ้วนได้ แถมกิจกรรมของสามเณรจะไม่เหมือนเด็กฆราวาสในวัยเดียวกันที่ได้กระโดดโลดเต้น ออกกำลังกาย ร่างกายได้ใช้พลังงาน แต่ด้วยวัตรปฏิบัติของเณร ทำให้ไม่ได้เคลื่อนไหวใช้พลังงานเช่นนี้มากนัก เมื่อฉันอาหารเข้าไปและโอกาสออกกำลังกายน้อย ก็จะอ้วนได้ง่ายกว่าเด็กทั่วไป

“ถ้าจะให้ดูแลเรื่องกับข้าวที่ใช้ถวายพระ สำหรับหลายคนอาจจะยุ่งยากไปสักหน่อย อยากแนะนำให้เริ่มจากของง่ายๆ อย่างข้าวก่อน หากจะใส่บาตรถ้าทำได้ขอให้เปลี่ยนมาใช้ข้าวกล้องแทน เพราะเป็นข้าวไม่ขัดสี มีวิตามินมาก ดีต่อร่างกาย และเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลช้ากว่าข้าวขัดสีหรือข้าวขาว แถมมีกากใยช่วยในการขับถ่าย ถือเป็นอาหารสุขภาพที่หาไม่ยากนัก อยากบอกต่อให้ผู้มีจิตศรัทธาใส่บาตรด้วยข้าวกล้อง จะเป็นการบำรุงร่างกายของภิกษุสามเณร รวมถึงเน้นกับข้าวเป็นผัก และของหวานเป็นผลไม้แทนที่จะเป็นขนมหวาน เพียงเท่านี้ก็จะเป็นการทำบุญใส่บาตรที่ภัตตาหารที่เราถวายไปนั้น เป็นประโยชน์กับร่างกายของพระภิกษุ-สามเณรจริงๆ”

ผอ.รพ.สงฆ์ทิ้งท้ายถึงพระ-เณร ที่มีภาวะอ้วนและความดันโลหิตสูง ว่า แม้วัตรปฏิบัติของศีลจะจำกัดไม่ให้มีกิจกรรมการเคลื่อนไหวในลักษณะของออกกำลังกาย แต่พระและเณรก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ใช้แรงเสมือนการออกกำลังกายได้ เช่น การกวาดลานวัด ทำความสะอาดพระอุโบสถ หรือกระทั่งการเดินบิณฑบาตทุกเช้า ก็เป็นการปฏิบัติกิจที่เสมือนการออกกำลังกาย เผาผลาญอาหารที่ฉันเข้าไป ปรับสมดุลร่างกายให้อยู่ในภาวะปกติและแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น