พลังงานที่มนุษย์ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าพลังงานน้ำ ไฟฟ้า นับวันยิ่งลดน้อยลง หากไม่รู้จักใช้ให้คุ้มค่าและรู้คุณค่า ใครจะรู้...วันหนึ่งพลังงานที่สำคัญยิ่งเหล่านี้อาจสูญสิ้นไปก็ได้
การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เล็งเห็นความสำคัญการใช้พลังงาน จึงร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) จัดกิจกรรม “โครงการสถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน” ขึ้น โดย กฟน.จัดทำมาตรฐานสถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน และมอบโล่เกียรติยศ เงินรางวัลรวมกว่า 1.3 ล้านบาท ให้แก่โรงเรียนที่ได้ผลการประเมินจัดระดับมาตรฐานในปี 2553 หรือรางวัล Energy Mind Award 2010 ตั้งแต่ระดับ 1 ดาว ถึง 5 ดาว ทั้งหมด 56 โรงเรียน สำหรับระดับ 5 ดาว หรือสถานศึกษาดีเด่นมี 6 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนแจงร้อนวิทยา โรงเรียนไผทอุดมศึกษา โรงเรียนอุดมศึกษา โรงเรียนเกษมพิทยา โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย และโรงเรียนหลวงพ่อปานคลองด่านอนุสรณ์ ซึ่งโรงเรียนที่ได้รับการประเมินระดับ 5 ดาว สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้มากกว่า 50%
นายประเสริฐ เสมอจิตร ผอ.ร.ร.หลวงพ่อปานคลองด่านอนุสรณ์ จ.สมุทรปราการ เล่าว่า โรงเรียนอยู่ค่อนข้างห่างไกล ทำให้มีปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำท่วม ขยะที่ผ่านมาโรงเรียนพยายามแก้ไขปัญหาแต่ไม่ประสบบความสำเร็จเท่าที่ควร จนกระทั่งเข้าร่วมโครงการกับ กฟน.ปีที่ผ่านมา ได้รับเลือกเป็นโรงเรียนอุปถัมภ์ จาก กฟน.ทำให้โรงเรียนได้พัฒนาโครงสร้างวางระบบน้ำทะเลที่ท่วมไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำ มีโครงการแกมลิงตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีธนาคารขยะ จัดกิจกรรมลดการใช้ไฟ รู้จักนำน้ำเหลือใช้กลับมาใช้อีก ยึดหลัก รียูส นำของเก่ามาใช้ใหม่ รีไซเคิล เปลี่ยนของเก่าให้มาทำหน้าที่ ใหม่ และรีดิวซ์ ลดการใช้ และเพิ่มคุณค่า ดังนั้น โครงการสถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน ไม่ใช่เพียงแก้วิกฤตของโรงเรียน ทำให้โรงเรียนสะอาดขึ้นเท่านั้น แต่ยังปลูกฝัง สร้างอุปนิสัย มีวินัย นึกถึงประโยชน์ส่วนร่วมมือมากกว่าส่วนตัว ให้กับนักเรียน ครู บุคลากรทุกคนของโรงเรียนในเรื่องการลดการใช้พลังงาน สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
น.ส.นันทพร ผลโพธิ์ หรือ น้องดาว และ น.ส.สุภาวดี มีมา หรือ น้องปู นักเรียนชั้น ม.5 สองสาวแกนนำรณรงลดการใช้พลังงาน ร.ร.หลวงพ่อปานคลองด่านอนุสรณ์ จ.สมุทรปราการ เล่าว่า ทำงานสร้างความรู้ ความเข้าใจ เผยแพร่ให้รุ่นน้องและทุกคนในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการลดการใช้พลังงาน นอกจากทำให้พวกเธอเห็นคุณค่า มีความรู้เรื่องพลังงานมากขึ้น ยังทำให้ได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม รับฟังความคิดเห็นผู้อื่น มีความรับผิดชอบ และทำให้เกิดความรัก สามัคคี นึกถึงประโยชน์ของส่วนร่วมมากกว่าส่วนตัว เพราะการทำงานอนุรักษ์พลังงาน สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ทุกคนต้องเสียสละจากการเรียนหนังสือ มาช่วยกันคิด สร้างสรรค์วิธีการ เพื่อกระตุ้น พัฒนาให้นักเรียนในโรงเรียนร่วมมือร่วมใจกันลดการใช้พลังงานอย่างจริงจัง
ด้านด.ญ.ธมลวรรณ สังข์เพชร น้องจ๊ะจ๋า และ ด.ญ.อิสริยา แก้วเหลี่ยม น้องฟ้า นักเรียนชั้น ม.3 สองสาวเพื่อนซี้ แกนนำของ ร.ร.ไผทอุดมศึกษา เล่าว่า มีส่วนร่วมกับทางโรงเรียนช่วยดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงาน โดยรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้า ลดถุงพลาสติก แยกขยะ นำขวดน้ำอัดลม ขวดนม มาประดิษฐ์เป็นสิ่งมีค่า รวมถึงได้มีการลงพื้นที่ชุมชน รณรงค์ลดการใช้พลังงาน โดยจะมีวิทยากรน้อยรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน ทำหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการประหยัดพลังงาน และทำกิจกรรม อาทิ ปลูกป่าชายเลน พร้อมกิจกรรมนันทนาการ บำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม
“พลังงานเป็นสิ่งสำคัญกับทุกคน หากหมดไป ไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนได้ การปลูกฝัง สร้างจิตสำนึกให้เกิดความเคยชิน เป็นนิสัยในการลดการใช้พลังงาน ปิดน้ำ ปิดไฟ ปิดแอร์ เมื่อไม่ใช้ โดยไม่มองว่าเป็นหน้าที่ของรัฐ หรือคิดว่าไม่มีทางหมดไปในยุคของเรา เพราะหากเราใช้อย่างไม่รู้จักคิด ไม่เห็นคุณค่า คนรุ่นหลัง ลูกหลานของเราในอนาคตอาจไม่มีพลังงานใช้ก็เป็นได้” เป็นสิ่งที่น้องๆ ทั้ง 4 คน จาก 2 สถานศึกษาดีเด่นด้านพลังงาน ฝากทิ้งท้าย