สธ.เร่งหารือกรมบัญชีกลาง ก่อนคลอด “กฎคุมเข้มการใช้ยา” ด้านกรมบัญชีกลาง ส่งเรื่องให้ อย.ทบทวนสรรพคุณยาข้อเข่าเสื่อม คาดอีก 2 สัปดาห์ ได้ข้อสรุป ขณะที่ อธิบดีกรมการแพทย์ เผย ยา 8 กลุ่มที่กรมบัญชีกลาง สั่งห้ามเบิกจ่ายให้ผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการข้าราชการเพิ่มเติม ได้หารือผู้เชี่ยวชาญถึงความจำเป็นในการใช้ยานอกบัญชียาหลัก
กรณีที่ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ออกประกาศห้ามแพทย์สั่งจ่ายยากลุ่มข้อเข่าเสื่อม ที่เป็นยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ ให้กับผู้ป่วยในสิทธิสวัสดิการข้าราชการและเตรียมสั่งห้ามจ่ายยาอีก 8 กลุ่มนั้น
ล่าสุด วันนี้ (15 ก.พ.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า ก่อนที่กรมบัญชีกลางจะตัดสินใจในการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านยาของแพทย์ หากมีการหารือกับ สธ.ด้วยจะเป็นการดีในฐานะที่ สธ.มีหน้าที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดคนไข้มากที่สุด โดยสธ.พร้อมที่จะส่งผู้เชี่ยวชาญไปให้ข้อมูล
รมว.สธ.กล่าวอีกว่า สำหรับคำสั่งหรือประกาศที่กรมบัญชีกลาง ได้ดำเนินการห้ามจ่ายยานอกบัญชียาหลักในโรคข้อเข่าเสื่อมแล้วนั้น ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการแพทย์ ศึกษาข้อมูลทางวิชาการ และได้ข้อสรุปเบื้องต้นส่งให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ใช้ประกอบในการพิจารณาตามที่กรมบัญชีกลางได้ส่งหนังสือขอให้ อย.พิจารณาว่า ยาในกลุ่มรักษาข้อเข่าเสื่อมจำเป็นต้องทบทวน แก้ไข สรรพคุณใดๆหรือไม่ คาดว่าอย.น่าจะพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนจะส่งความเห็นไปยังกรมบัญชีกลาง
ด้าน นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในส่วนของยาอีก 8 กลุ่มโรคที่กรมบัญชีกลางเตรียมที่จะสั่งห้ามเบิกจ่ายให้กับผู้ป่วยสิทธิสวัสดิการข้าราชการเพิ่มเติมนั้น กรมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญโรคดังกล่าวพร้อมด้วยหลักฐานทางวิชาการมาหารือถึงเหตุผลความจำเป็นในการใช้ยานอกบัญชียาหลักในการรักษาผู้ป่วยใน 8 กลุ่มโรค เพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งขณะนี้ดำเนินการเสร็จแล้ว 3 กลุ่ม คือ 1.ยาลดแผล และเลือดออกในกระเพาะอาหาร 2.ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ และ 3.ยาลดไขมันในเลือด ซึ่งยานอกบัญชียาหลักบางตัวจำเป็นต้องใช้ เนื่องจากยาในบัญชียาหลักรักษาไม่ได้ โดยอยู่บนพื้นฐานหลักฐานวิชาการ