กมธ.สาธารณสุข สภาฯ รับเรื่องข้าราชการบำนาญร้องกรมบัญชีกลางถอนยาโรคข้อเข่าเสื่อม ทำข้าราชการเสียสิทธิ์ ชี้ทำไมถูกต้องตาม พ.ร.ฎ.สวัสดิการ ยันคุย “มาร์ค” แล้ว เล็งเชิญกรมบัญชีแจงหามาตรการช่วย
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่รัฐสภา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องจาก พญ.เชิดชู อริยศรีวัฒนา ข้าราชการบำนาญ พร้อมคณะ กลุ่มข้าราชการประจำ และข้าราชการบำนาญ โดยเข้าร้องเรียนกรณีที่กรมบัญชีกลางเพิกถอนกลุ่มยากลูโคซามีน คอนดรอยตินซัลเฟต และไดอะเซอเรน หรือยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม เพราะอ้างว่ายากลุ่มนี้เป็นอาหารเสริมที่ไม่ใช่ยา โดยราคายาแพง และการเบิกจ่ายยาของข้าราชการสูงเกินจริง สิ้นเปลืองงบประมาณ ซึ่งถ้าตัดยาตัวนี้ออกไปจะช่วยประหยัดงบ 442 ล้านบาท แต่ถ้าตัดทั้ง 9 กลุ่มจะช่วยประหยัดได้ถึง 4,851 ล้าน บาท แต่ความเป็นจริงจะทำให้ข้าราชการประจำและข้าราชการบำนาญที่มีรายได้น้อยจะต้องมาเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อยาดังกล่าวเอง ทั้งนี้ หากตัดกลุ่มยาดังกล่าวสำเร็จจะทำให้ยาอีก 8 กลุ่มถูกยกเลิกไปด้วย จะทำให้ข้าราชการไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว ซึ่งการกระทำของกรมบัญชีกลางครั้งนี้ เป็นการออกประกาศที่ไม่ถูกต้องตามพระราชกฤษฎีกา เงิน สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553
ด้าน นพ.วรงค์ กล่าวว่า ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว โดยนายกฯ บอกว่าจะต้องนำเรื่องดังกล่าวมาปรับปรุงแก้ไข แต่เพียงต้องใช้เวลา และจะเชิญตัวแทนจากกรมบัญชีกลางมาชี้แจงเรื่องนี้เพื่อมาทบทวนเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าว และหามาตรการอื่นมาทดแทนการตัดสิทธิ ซึ่งตนคิดว่าวิธีการที่จะช่วยสามารถทำได้โดยกรมบัญชีกลางไม่จำเป็นต้องตัดสิทธิการควบคุมการจ่ายยานอกบัญชีหลักทั้ง 9 กลุ่ม แต่สามารถใช้วิธีการจ่ายยาโดยกำหนดว่ายาบัญชีหลักให้จ่ายได้เลย แต่ถ้าเป็นยานอกบัญชีหลักควรให้สำรองจ่ายค่ายาไปก่อนแล้วค่อยมาเบิกกับต้นสังกัดตรง จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ นอกจากนี้ การได้รับผลกระทบดังกล่าวเป็นกลุ่มของข้าราชการเท่านั้น ไม่กระทบต่อประชาชนที่ใช้บัตรทอง และบัตรประกันสังคม อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าประชาชนทั่วไปสามารถใช้ยาฟรีได้หรือไม่