xs
xsm
sm
md
lg

“หมอประชุมพร” คว้าเก้าอี้ ประธาน สพศท.คนใหม่ ยันค้าน กม.ผู้ป่วยแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หมอประชุมพร” คว้าเก้าอี้ ประธาน สพศท.คนใหม่ ยันเดินหน้านโยบายค้าน กม.ผู้ป่วย จวกเครือข่ายผู้เสียหายฯ ปล่อยข้อมูลมั่วผ่านเฟซบุ๊ก จี้ สธ.ดำเนินการ

เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2554 ที่ห้องประชุมไพจิตร์ ปวบุตร กระทรวงสาธารณสุข (สธ..) มีการประชุมใหญ่สามัญของกรรมการสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) เพื่อสรรหากรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งครบวาระการดำเนินงานครบ 2 ปี โดยการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเสนอชื่อและลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้แทนโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.)กว่า 50 แห่งจากทั้งหมด 94 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมลงคะแนน ผลปรากฏว่า พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ เป็นประธาน สพศท.คนใหม่ แทน พญ.พจนา กองเงิน อดีตประธาน สพศท. ขณะที่รองประธาน สพศท.ประจำ 4 ภาค ได้แก่ 1.พญ.ฤทัย วรรธนาวินิจ เป็นรองประธาน สพศท.ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.นพ.ประดิษฐ์ ไชยบุตร รองประธาน สพศท.ประจำภาคกลาง นพ.เพิ่มบุญ จริยศบุญยศักดิ์ รองประธาน สพศท. ภาคใต้ และ 4.นพ.ภีศเดช สัมมานันท์ รองประธาน สพศท.ภาคเหนือ ส่วนกรรมการรายภาคอื่นๆ แต่ละพื้นที่จะดำเนินคัดเลือกภายหลัง

โดย พญ.ประชุมพร กล่าวว่า นโยบายหลักของ สพศท. คือจะยังคงเดินหน้า คัดค้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ... โดยจะเดินหน้าสนับสนุนให้ รพศ./รพท.ที่ยังไม่ได้ร่วมประกาศจุดยืนด้วยการแต่งดำ หรือติดริบบิ้นดำ ก็จะทยอยเคลื่อนไหวต่อไป ทั้งนี้ หากรัฐบาลยังเดินหน้าเรื่องนี้ สพศท. จะมีการหารือถึงแนวทางการชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรม ควบคู่กับมาตรการนำร่องให้ประชาชนทราบถึงผลกระทบของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ด้วยการตรวจตามมาตรฐานวิชาชีพมากขึ้นด้วย
หน้าเฟซบุ๊กของเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทราบผลการประชุมคัดเลือกกรรมการบริหารแพทยสภาชุดใหม่ นพ.เพิ่มบุญ ได้ออกแถลงการณ์ประณามผู้ผลักดันร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้เสียหายฯ จากกรณีปล่อยข้อมูลสร้างความเสื่อมเสียให้แก่แพทย์ในเฟซบุ๊ก (Facebook) ว่า เรื่องนี้ส่งผลให้วงการแพทย์ไทยเสื่อมเสียมาก เนื่องจากมีการอ้างข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เนื้อหาโจมตีโรงพยาบาลทั่วประเทศว่า ทุก 1 ใน 6 คนที่ตายในโรงพยาบาลเกิดจากความผิดพลาดทางการแพทย์ และมีการทำกราฟแท่งแสดงสถิติสาเหตุการตายของคนไทยในปี 2549 แสดงข้อมูลเท็จสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง คือ ความผิดพลาดทางการแพทย์ถึง 65,000 คน ซึ่ง เป็นข้อมูลที่เป็นเท็จ โดยหวังผลให้ผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฯ ทั้งๆ ที่ปัจจุบันข้อมูลผู้เสียชีวิตระดับประเทศยังเป็นตัวเลขที่ไม่ลงตัว จึงไม่เข้าใจว่าตัวเลขนี้มาจากไหน คำนวณอย่างไร

สพศท.ของประณามการกระทำของผู้ผลักดันร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว และควรมีจริยธรรมในการถอนโพสต์ข้อมูลนี้ออกจากเฟซบุ๊กเสีย และขอให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่ดูแลโรงพยาบาลทั่วประเทศแสดงความรับผิดชอบด้วยการชี้แจงประชาชนให้ถูกต้อง ซึ่งหากไม่ชี้แจงแสดงว่ายอมรับข้อมูลนี้ ซึ่งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เราได้เสนอเรื่องนี้ให้ทางรัฐมนตรี สธ.และปลัด สธ.ทราบแล้ว เบื้องต้น ปลัด สธ. ได้มอบหมายให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) สำนัก งานปลัด สธ. ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลนี้แล้ว และทางแพทยสภา ในฐานะที่ต้องรักษาศักดิ์ศรีของแพทย์ ก็อยู่ระหว่างเรียกเจ้าของงานวิจัยไปชี้แจงเช่นเดียวกัน” นพ.เพิ่มบุญกล่าว

ขณะที่แพทย์รายหนึ่งที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ กล่าวระหว่างการแถลงว่า ในหน้าเฟซบุ๊กของเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้ระบุถึงเนื้อหาโดยมีการอ้างอิงข้อมูลจาก นพ.สรรธวัช อัศวเรืองชัย ซึ่งนำข้อมูลการเสียชีวิตจากความผิดพลาดทางการแพทย์ในการประชุมขององค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2549 มาเปิดเผย ซึ่งไม่แน่ใจว่าแพทย์รายดังกล่าวเป็นบุคคลของ สธ.ด้วยหรือไม่

ด้าน นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ยืนยันว่าจะไม่ถอนข้อมูลดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊ก เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวมีที่มาที่ไปและหลายประเทศทั่วโลกที่เจริญแล้ว ต่างก็ยอมรับกันว่าความผิดพลาดทางการแพทย์ที่ป้องกันได้นั้นเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ มากกว่ารถชนตาย อีกทั้งจากสถิติของสหรัฐอเมริกาในปี 2543 ยังพบสถิติการตายจากความผิดพลาดทางการแพทย์ สูงถึง 98,000-190,000 คนทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น