xs
xsm
sm
md
lg

สธ.พบกว่า 40% ของคนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ไม่สวม “กันน็อก” เหตุกลัวเสียทรงผม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
สธ.ประกาศดีเดย์ 7 ก.พ.ห้ามผู้ใช้จักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยผ่านเข้าออกกระทรวงสาธารณสุข จะเริ่มจับปรับจริง มีบทลงโทษทางวินัยในวันที่ 1 มีนาคม 2554 เผยผลสำรวจหลังรณรงค์ 1 เดือน พบได้ผลในกลุ่มผู้ขับขี่ ส่วนคนซ้อนยังสวมไม่ถึงครึ่ง

ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายหมวกนิรภัย หรือหมวกกันน็อกอย่างจริงจัง หลังจากที่ได้เริ่มรณรงค์เป็นหน่วยงานนำร่องเป็นเขตสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2553 เป็นต้นมา และออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้พื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นเขตสวมหมวกกันน็อก 100 เปอร์เซ็นต์ ตามนโยบายรัฐบาลที่ประกาศให้ปี 2554 เป็นปีแห่งการรณรงค์ปีส่งเสริมการสวมหมวกกันน็อก 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน

ดร.พรรณสิริ กล่าวต่อว่า จากการติดตามประเมินผลการใช้หมวกกันน็อกในพื้นที่กระทรวงธารณสุข จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554 พบว่า ได้ผลดีในกลุ่มผู้ขับขี่ ส่วนผู้ซ้อนท้ายยังได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ โดยในกลุ่มรถจักรยานยนต์ทั่วไป ผู้ขับขี่มีอัตราการใช้เพิ่มขึ้นจากก่อนรณรงค์ร้อยละ 86 เป็นร้อยละ 94 ผู้ซ้อนท้ายใช้เพิ่มจากร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 48 ส่วนในกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้าง อัตราการใช้ในผู้ขับขี่ เพิ่มจากร้อยละ 94 เป็นร้อยละ 99.7 ผู้ซ้อนท้ายสวมเพิ่มจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 43 เมื่อสอบถามผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้เหตุผลที่ไม่สวมหมวกกันน็อคว่า กลัวผมเสียทรง กลัวหมวกไม่สะอาด มากกว่ากลัวการได้รับบาดเจ็บทางสมอง

ดร.พรรณสิร กล่าวต่อว่า ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและเพื่อให้ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ใช้หมวกกันน็อกให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามเป้าหมาย กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาตรการเข้มงวด 3 มาตรการต่อเนื่อง โดย 1.ไม่อนุญาตให้ผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย ผ่านเข้าออกพื้นที่กระทรวงสาธารณสุขอย่างเด็ดขาด หากต้องการผ่าน ให้ผู้โดยสารลงเดิน ส่วนผู้ขับขี่ให้ดับเครื่องและเดินจูงรถจักรยานยนต์ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป

2.ประสานขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจเมืองนนทบุรี เข้ามาตรวจเตือนเป็นระยะๆ เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2554 หลังจากนั้นจะดำเนินการสุ่มตรวจจับและปรับตามกฎหมาย โดยผู้ขับขี่จะมีโทษปรับ 500 บาท ส่วนผู้ซ้อนท้ายถ้าไม่สวม ผู้ขับขี่จะถูกเป็นปรับ 2 เท่า คือ 1,000 บาท และหากเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขฝ่าฝืนกฎหมายจะมีบทลงโทษทางวินัยตามมติคณะรัฐมนตรีด้วย 3.กระทรวงสาธารณสุขได้สนับสนุนหมวกรองใน เพื่อแจกจ่ายให้ผู้ซ้อนท้ายที่ต้องใช้หมวกกันน็อกร่วมกับผู้อื่น จำนวน 15,000 ชิ้น เนื่องจากผลสำรวจพบว่าผู้โดยสารบางรายรังเกียจการใช้หมวกกันน็อกร่วมกับผู้อื่น หมวกชนิดนี้ใช้ซ้ำได้ และได้ให้กรมควบคุมโรคออกคำแนะนำการดูแลความสะอาดหมวกกันน็อกแก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทุกคนที่ผ่านเข้าออกกระทรวงสาธารณสุข และจะเผยแพร่คำแนะนำดังกล่าวแก่ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทั่วประเทศด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น