เหยื่อปะทะเดือด ไทย-เขมร ตาย 1 เจ็บ 9 “จุรินทร์” สั่งการ รพ.แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้เตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ให้ รพ.กันทรลักษณ์จัดหน่วยแพทย์ไปดูแลประชาชนที่อพยพมาอยู่ที่ว่าการอำเภอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สนามบินดอนเมือง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีเหตุปะทะที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีเหตุปะทะกันให้เตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่ายทั้งจังหวัด
ขณะนี้ โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ได้จัดหน่วยแพทย์เข้าไปดูแลประชาชนที่อพยพจากแนวชายแดนมาอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์ ผลจากเหตุปะทะรายงานล่าสุด ผู้อำนวยการกันทรลักษณ์แจ้งว่าได้รับผู้บาดเจ็บเป็นทหารชื่อ สิบเอก ธีรวัฒน์ ศรีวรินทร์ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 16.45 น. ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในจังหวัดศรีสะเกษและใกล้เคียงที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาให้เตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยหากมีการปะทะกันแล้วมีการบาดเจ็บเกิดขึ้นจำเป็นต้องจัดรถไปรับ ทางโรงพยาบาลศรีสะเกษได้มีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว หากมีอาการหนักจำเป็นต้องส่งตัวรักษาต่อ ถ้าเป็นทหารจะส่งไปที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี หากเป็นพลเรือนจะส่งไปโรงพยาบาลศรีสะเกษ เป็นระบบที่ได้มีการเตรียมการให้เรียบร้อยแล้ว
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า เวลา 18.30 น. ได้รับรายงานจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะ 1 ราย ชื่อนายเจริญ ผาหอม เสียชีวิตจากถูกกระสุนปืนใหญ่ที่หมู่บ้านภูมิซรอล และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 4 ราย ได้แก่ 1.จ่าสิบเอก มงคล พลเยี่ยม อายุ 49 ปี มีเลือดออกใต้ตาจากแรงสะเก็ดระเบิด 2.ทหารพราน ดำรง พรมโคตร อายุ 51 ปี หูอื้อจากแรงระเบิด และมีแผลถลอกที่หลังมือข้างขวา 3.จ่าสิบเอก วิรัตน์ งามสูงเนิน อายุ 49 ปี ปวดศีรษะจากแรงระเบิด และ 4.ทหารพราน สุวรรณ ก่อแก้ว อายุ 40 ปี ศีรษะแตกยาว 4-5 เซนติเมตร แพทย์กำลังทำความสะอาดและเย็บแผล ทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ อาการปลอดภัยแล้ว
ล่าสุดเวลา 19.00 น. ได้รับรายงานมีทหารบาดเจ็บเพิ่มอีก 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร วิทยา ศรีมันตะ อายุ 22 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาซ้าย 2.จ่าสิบเอก สุมนต์ จำประโคน อายุ 50 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่แขน และ 3.อาสาสมัครทหารพราน เสถียร ศรีมุกดา อายุ 46 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ทุกคนอาการปลอดภัย
ในเวลา 21.30 น.มีรายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มเข้ามาอีก 1 ราย ทราบชื่อ ทหารพราน สาคร สะภา อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วก้อยป็นแผลฉีกขาด และมีอาการหูอื้อ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กันทรลักษณ์ เช่นกัน ขณะที่จ่าสิบเอกมงคล พลเยี่ยม ได้รับการช่วยเหลือโดยส่งตัวไปที่ รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ส่วน สธ.เองได้มีการส่งทีมแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่ไปประจำการที่ รพ.และสถานพยาบาลในแต่ละอำเภอ เพื่อรอบบริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนที่กำลังอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สนามบินดอนเมือง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีเหตุปะทะที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีเหตุปะทะกันให้เตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับโรงพยาบาลเครือข่ายทั้งจังหวัด
ขณะนี้ โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ได้จัดหน่วยแพทย์เข้าไปดูแลประชาชนที่อพยพจากแนวชายแดนมาอยู่ที่ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษณ์ ผลจากเหตุปะทะรายงานล่าสุด ผู้อำนวยการกันทรลักษณ์แจ้งว่าได้รับผู้บาดเจ็บเป็นทหารชื่อ สิบเอก ธีรวัฒน์ ศรีวรินทร์ อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเมื่อเวลา 16.45 น. ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในจังหวัดศรีสะเกษและใกล้เคียงที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาให้เตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ โดยหากมีการปะทะกันแล้วมีการบาดเจ็บเกิดขึ้นจำเป็นต้องจัดรถไปรับ ทางโรงพยาบาลศรีสะเกษได้มีการเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว หากมีอาการหนักจำเป็นต้องส่งตัวรักษาต่อ ถ้าเป็นทหารจะส่งไปที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี หากเป็นพลเรือนจะส่งไปโรงพยาบาลศรีสะเกษ เป็นระบบที่ได้มีการเตรียมการให้เรียบร้อยแล้ว
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า เวลา 18.30 น. ได้รับรายงานจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะ 1 ราย ชื่อนายเจริญ ผาหอม เสียชีวิตจากถูกกระสุนปืนใหญ่ที่หมู่บ้านภูมิซรอล และมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก 4 ราย ได้แก่ 1.จ่าสิบเอก มงคล พลเยี่ยม อายุ 49 ปี มีเลือดออกใต้ตาจากแรงสะเก็ดระเบิด 2.ทหารพราน ดำรง พรมโคตร อายุ 51 ปี หูอื้อจากแรงระเบิด และมีแผลถลอกที่หลังมือข้างขวา 3.จ่าสิบเอก วิรัตน์ งามสูงเนิน อายุ 49 ปี ปวดศีรษะจากแรงระเบิด และ 4.ทหารพราน สุวรรณ ก่อแก้ว อายุ 40 ปี ศีรษะแตกยาว 4-5 เซนติเมตร แพทย์กำลังทำความสะอาดและเย็บแผล ทั้งหมดอยู่ที่โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ อาการปลอดภัยแล้ว
ล่าสุดเวลา 19.00 น. ได้รับรายงานมีทหารบาดเจ็บเพิ่มอีก 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร วิทยา ศรีมันตะ อายุ 22 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ขาซ้าย 2.จ่าสิบเอก สุมนต์ จำประโคน อายุ 50 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่แขน และ 3.อาสาสมัครทหารพราน เสถียร ศรีมุกดา อายุ 46 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกันทรลักษณ์ ทุกคนอาการปลอดภัย
ในเวลา 21.30 น.มีรายงานผู้บาดเจ็บเพิ่มเข้ามาอีก 1 ราย ทราบชื่อ ทหารพราน สาคร สะภา อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วก้อยป็นแผลฉีกขาด และมีอาการหูอื้อ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กันทรลักษณ์ เช่นกัน ขณะที่จ่าสิบเอกมงคล พลเยี่ยม ได้รับการช่วยเหลือโดยส่งตัวไปที่ รพ.ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ส่วน สธ.เองได้มีการส่งทีมแพทย์และพยาบาลเคลื่อนที่ไปประจำการที่ รพ.และสถานพยาบาลในแต่ละอำเภอ เพื่อรอบบริการรักษาพยาบาลแก่ประชาชนที่กำลังอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง
