นายกฯ เปิดงานวันครูปี 54 ที่คุรุสภา ทำพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” คารวะครูอาวุโส “คุณหญิงอัมพร มีศุข พร้อมเชิญชวนครูทั่วประเทศดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท “ในหลวง” มุ่งปฏิบัติหน้าที่สร้างทรัพยากรบุคคล พัฒนาประเทศก้าวหน้า ด้าน “เลขาธิการคุรุสภา” ยื่นข้อเสนอพัฒนาครู ขอเพิ่มสวัสดิการ บริหารงานบุคคลอย่างเป็นธรรม เสนอใส่ “วันครู” วันสำคัญในปฏิทิน กวดขันกวดวิชา
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อประมาณเวลา 07.00 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.และคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คณะอนุกรรมการจัดงานวันครู ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษาอื่นๆ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป เนื่องในงานวันครู ประจำปี 2554 โดยคำขวัญวันครู พ.ศ.2554 คือ เทิดพระเกียรติทั่วหล้า บูชาครูของแผ่นดิน “ภูมินทร์ภูมิพล” ซึ่งเป็นคำขวัญที่ชนะการประกวดคำขวัญวันครูของ นางกนกอร ภูนาสูง จาก จ.กาฬสินธุ์
ต่อมาในเวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังหอประชุมคุรุสภา เพื่อร่วมรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯ อภิสิทธิ์” จากนั้นในเวลาประมาณ 09.30 น.ได้เป็นประธานเปิดงานวันครู ประจำปี 2554 ครั้งที่ 55 พร้อมกับทำพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน” ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังได้คารวะครูอาวุโส คุณหญิง อัมพร มีศุข เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีและน้อมรำลึกพระคุณครู และมอบของที่ระลึกแก่ครูอาวุโส หลังจากนั้น นายสมบัติ แก้วสุจริต อ่านโองการอัญเชิญบูชาบูรพาจารย์ และ นายนิยม ศรีวิเศษ ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำพิธีสวดคำฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ทำนองสรภัญญะ หลังจากนั้น นางจุไรรัตน์ วรรณยิ่ง ครูอาวุโสประจำการ นำผู้ร่วมชุมนุมกล่าวคำปฏิญาณตน
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบของรางวัลแก่ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาชาติ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ได้รับ “รางวัลคุรุสภา” ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ได้รับ “รางวัลตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู” ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ได้รับรางวัล “ครูภาษาฝรั่งเศลดีเด่น” ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อวิชาชีพทางการศึกษารับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “คุรุสดุดี” ผู้ชนะการประกวดคำขวัญวันครู ผู้ชนะการประกวดบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู ผู้ชนะการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู และผู้ชนะการประกวดวาดภาพ เนื่องในโอกาสวันครู
จากนั้น นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวคำปราศรัยในการเปิดงานวันครูตอนหนึ่ง ว่า ครูเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของประเทศ งานของครูจึงเป็นผู้ที่ซึ่งนำพาประเทศชาติให้ก้าวหน้าต่อไปได้อย่างมีหลักการ และเป็นผู้ปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอชีวิต อย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ ครูที่เป็นแบบอย่างที่ดีมีอยู่จำนวนมาก ที่มีเป็นต้นแบบของครูแห่งแผ่นดิน นั่นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระมหากรณาธิคุณต่อพสกนิกรทุกสาขาอาชีพ ทรงมีพระเมตตาสั่งสอนถ่ายทอดความรู้ต่างๆ ให้พสกนิกร ทุกวัย อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ทรงเสด็จเถลิงสิริราชสมบัติจนถึงปัจจุบัน 64 ปี ซึ่งตลอดรัชสมัยอันยาวนานนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจัดตังโรงเรียนจิตลดา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนระบบทางไกลผ่านดาวเทียม โรงเรียนพระดาบส โครงการสาราณุกรมไทยสำหรับเยาวชน โรงเรียนนอกระบบต่างๆ ที่พระองค์ทรงมีพระราชดำริ รับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกจำนวนมาก นับเป็นคุโณปการอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทย ที่จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระราชทานแนวทางพัฒนาการศึกษาสำหรับเยาวชน ผ่านโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อให้ประชาชนในชนบทได้ประกอบอาชีพอย่างได้ผล พระองค์ยังทรงสนพระราชหฤทัยในงานวิจัยมาโดยตลอด นำมาสู่การสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ และทรงพระราชทานพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท ในโอกาสต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นแนวทางในการพัฒนาความรู้ และการดำรงชีวิต ทั้งนี้ ตนหวังให้ครูทุกคนดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท เพื่อเป็นราชสดุดีถวายแด่พระองค์ท่าน ด้วยการร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ อย่างเต็มความสามารถเพื่อสร้างทรัพยากรบุคคล ในการพัฒนาประเทศให้มีความก้าวหน้า รุ่งเรืองต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการปฏิรูปการศึกษารอบ 2 นั้น ได้มีการกำหนดให้สอดคล้องทั้งระบบ ทั้งพัฒนาคุณภาพครู สถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ การบริหารจัดการการศึกษา การพัฒนาหลักสูตร การผลิตครู เพื่อให้มีจิตวิญญาณ และอุทิศตนเสียสละ เพื่อให้ก้าวทันโลก ดังนั้นรัฐบาลจึงมีนโยบายส่งเสริมให้ครูประกอบวิชาชีพอย่างมีประสิทธิภาพ ดำรงชีวิตเป็นตัวอย่างแก่เด็กและเยาวชนเหมาะสม
“ขณะนี้พบว่าครูมีภาระหนักทั้งด้านการสอน และภาระงานนอก สิ่งนี้ทำให้กระทบต่อประสิทธิภาพของครูในประเทศไทย ซึ่งวัดโดยระดับเงินเดือนต่อผลสัมฤทธ์ทางการศึกษาของนักเรียนในการทำคะแนนในข้อสอบวัดมาตรฐานนานาชาติต่างๆ ซึ่งพบว่ามีระดับต่ำกว่านานาชาติ นอกจากนั้น ต้องยอมรับว่าครูไทยยังประสบปัญหาอีกหลากหลาย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องมีการกระตุ้นจิตวิญญาณความเป็นครู พัฒนาขีดความสามารถเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และสังคม ทั้งการปรับปรุงรายได้ของครู ที่ยังไม่เพียงพอทำให้มีปัญหาในเรื่องของการที่มีการไปสอนเพื่อแสวงหารายได้มากขึ้น” นายกฯ กล่าว
นายอภิสิทธ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2554 นี้ รัฐบาลจึงมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพครู และมีการประกาศให้เป็นปีแห่งคุณภาพครู นอกจากดำเนินการด้านต่างๆ แล้วยังมีการปรับค่าตอบแทนครูให้เหมาะสมกับวิชาชีพ ปรับเกณฑ์วิทยฐานะ จัดตั้งกองทุนพัฒนาครูอาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา ตามที่พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ปี 2542 ได้กำหนดไว้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจส่งเสริมให้ครูมีขวัญกำลังใจมากขึ้น ทั้งนี้ ตนหวังว่า ครูจะช่วยสนับสนุนงานด้านการปฏิรูปประเทศไทยที่มีความจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย หวังว่า จะแสดงบทบาทของครูที่เข้มแข็งในการเป็นแบบอย่างแก่เยาวชน มุ่งสร้างสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
จากนั้น นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา ได้เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษายื่นข้อเสนอภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ “พัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาเพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียน” ซึ่งได้ข้อสรุปจาการประชุมสมัชชาสมาชิกศูนย์เครือข่ายพัฒนาวิชาชีพผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ต่อนายกรัฐมนตรี ได้แก่ มิติการพัฒนาวิชาชีพทางการศึกษา 1.ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาต้องได้รับเงินเดือนขั้นต้นไม่น้อยกว่ารายได้เฉลี่ยของคนไทยและได้รับเงินเดือนสูงขึ้นเพียงพอแก่การดำรงตนในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี และต้องได้รับสวัสดิการสูงกว่าผู้ประกอบวิชาชีพทั่วไป รวมทั้งสวัสดิการหลังเกษียณสูงกว่าผู้ประกอบวิชาชีพทั่วไป 2.ความก้าวหน้าในวิชาชีพ การเลื่อนวิทยฐานะต้องใช้หลักเกณฑ์ที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพของผู้เรียนเป็นหลักและกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับมาตรฐานตำแหน่งของผู้ประกอบวิชาชีพให้สามารถปรับเงินเดือนข้ามแท่งได้ และการเข้าสู่ตำแหน่งและเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้นต้องมีความยุติธรรมไม่สร้างความแตกแยกให้กับผู้ประกอบวิชาชีพ โดยยึดผลสัมฤทธิ์ของงานเป็นหลัก
3.การบริหารงานบุคคลต้องเพียงพอและเป็นธรรม โดยความเพียงพอรัฐต้องร่วมกับผู้ประกอบการวิชาชีพกำหนดอัตราครูต่อนักเรียนที่เหมาะสมและส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ส่วนความเป็นธรรม องค์คณะบุคคลในการบริหารงานบุคคลทุกระดับต้องมีหรือเคยมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและมีผู้แทนจากองค์กรวิชาชีพในสัดส่วนที่เหมาะสม 4.องค์กรวิชาชีพทางการศึกษาที่มีอิสระ รัฐต้องให้องค์รวิชาชีพทางการศึกษามีอิสระในการบริหารและพัฒนาวิชาชีพมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายด้านการศึกษา 5.รัฐต้องกำหนดวันครู 16 ม.ค.เป็นวันสำคัญที่ต้องบันทึกไว้ในปฏิทิน โดยให้ใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศใช้เป็นกฎหมาย
ด้านมิติในการพัฒนาการศึกษา 1.การจัดการศึกษาภาคบังคับถือเป็นหัวใจการศึกษาของชาติ จึงอยากให้ทุกโรงเรียนสามารถจัดการศึกษาภาคบังคับได้อย่างทั่วถึง และมีคุณภาพตามมาตรฐาน โดยรัฐต้องสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอ และให้จัดตั้งสำนักการศึกษาภาคบังคับในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2.การจัดการศึกษาต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกด้านและให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข หลักสูตรต้องส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนในทุกด้าน ส่งเสริมให้โรงเรียนจัดกิจกรรมพัฒนาการด้านสังคม คุณธรรม จริยธรรม และรัฐต้องไม่ก้าวล่วงต่ออำนาจวินิจฉัยทางวิชาชีพ เพราะผู้ประกอบวิชาชีพมีเกณฑ์มาตรฐานและจรรยาบรรณควบคุม
3.ปรับกระบวนการสอบคัดเลือกเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษาและกวดขันโรงเรียนกวดวิชา โดยการสอบคัดเลือกควรจัดสอบในช่วงปลายปีการศึกษาเท่านั้น วิชาที่สอบต้องตรงตามสาขาวิชาที่จะเข้าศึกษา ควบคุมและจัดระบบโรงเรียนกวดวิชาเพราะมีผลเสียกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4.ปรับโครงสร้างการบริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้มีหน้าที่ส่งเสริมการจัดการศึกษา และให้โรงเรียนบริหารจัดการโดยยึดโรงเรียนเป็นฐาน 5.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอุดหนุนการจัดการศึกษาภาคบังคับ รวมถึงให้ร่วมมือและอุดหนุนงบประมาณให้กับโรงเรียนในการจัดกิจกรรมพัฒนาการด้านสังคม คุณธรรมและจริยธรรม
ทั้งนี้ ภายในงานวันครูปีนี้ได้มีการจัดกิจกรรมสำคัญต่างๆ อาทิ จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการผลงานครู การออกร้านแสดงผลงานผลิตภัณฑ์จากโรงเรียนต่างๆ กิจกรรมการถาม-ตอบปัญหา ความรู้รอบตัวชิงรางวัล เกมตอบคำถามเพื่อชิงรางวัล การเขียนโปสการ์ดเพื่อส่งคารวะพระคุณครู การแสดงจากนักเรียน และศิลปิน
ด้าน นายชินวรณ์ กล่าวว่า วันครูปีนี้ ศธ.ได้จัดตั้ง “กองทุนครูของแผ่นดิน” ขึ้น โดยจัดกิจกรรมระดมทุน วันที่ 15-17 ม.ค. ซึ่งเป็นที่น่าปลื้มปีติอย่างมาก เนื่องจากวันแรกมีครูทั่วประเทศและผู้ศรัทธาในครูร่วมบริจาคเป็นเงินถึง 60 ล้านบาท และในวันครูสามารถระดมได้อีก 25 ล้านบาท รวม 85 ล้านบาท ถือว่าทะลุเป้าที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า จะได้รับบริจาคเพิ่มขึ้นอีก รวมแล้ว 119 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับอายุของกระทรวงศึกษาธิการ