อย.เตือนผู้บริโภคอย่าได้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เอนไซม์ เจนิฟู้ด ซึ่งอ้างเป็น “เอนไซม์” หลังพบมีการโฆษณาทางโทรทัศน์ดาวเทียม และ เคเบิลทีวี อ้างรักษาโรคมะเร็ง หัวใจ อัมพฤกษ์ เบาหวาน ความดัน สั่งระงับโฆษณา และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างหนัก เพราะเงินค่าปรับจะทวีคูณตามจำนวนครั้งที่พบ ถือเป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ปกป้องมิให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ปฏิบัติการเชิงรุกตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกผลิตภัณฑ์ทางสื่อต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ พบว่ามีการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหาร “เอนไซม์ เจนิฟู้ด” ซึ่งขอขึ้นทะเบียนกับ อย.เป็นเครื่องดื่มพืชผักผลไม้ผสม (ตราเจนิฟู้ด) แต่โฆษณาอ้างว่าเป็น “เอนไซม์” ทางสื่อโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ได้แก่ Nation Channel, I Channel, Thai Vision, KM Channel, Home Channel, MVTV 5, Star Channel, iNews Channel, MYTV, Nice Channel, Variety Channel เป็นต้น มีข้อความโฆษณาอวดอ้างรักษาได้สารพัดโรค เช่น ป้องกัน ยับยั้ง ต่อต้าน ทำลายโรคต่างๆ เป็นทางเลือกที่ได้ผลสูง, รักษาแผลกดทับเนื่องจากอัมพฤกษ์, ใช้โรยแผลที่มีเนื้อมะเร็ง แผลบวม มีหนอง จะช่วยดูดซับสารพิษทั้งหมด ฯลฯ โดยนำบทสัมภาษณ์ผู้ป่วย อาทิ ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน เบาหวาน ความดัน มะเร็ง ไขมันอุดตัน มะเร็งเต้านม หัวใจตีบ ฯลฯ ที่รับประทานผลิตภัณฑ์เอนไซม์ดังกล่าวแล้วอาการป่วยดีขึ้น หรือหายจากอาการป่วย หรือนำผู้ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในสังคมมาโฆษณา เพื่อจูงใจให้ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ ทั้งนี้ อย.ขอเตือนให้ผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจัดเป็นอาหารไม่ใช่ยา จึงไม่มีสรรพคุณในการบำบัดรักษาโรคได้ หากผู้บริโภคหลงเชื่อซื้อหามารับประทาน นอกจากจะสิ้นเปลืองเงินทองโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจทำให้พลาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาโรคอย่างถูกต้อง รวมถึงอาจได้รับอันตรายจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอีกด้วย ซึ่ง อย.จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด โดยจะปรับในฐานความผิดที่มีการโฆษณาต่างกรรมต่างวาระ เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้หลาบจำ กล่าวคือ เงินค่าปรับ จะทวีคูณตามจำนวนครั้งที่พบการโฆษณา และจะมีคำสั่งระงับการโฆษณา ซึ่งหากฝ่าฝืนคำสั่งระงับโฆษณาจะมีโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงจะมีการเสนอคณะกรรมการอาหารในการออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตผลิตอาหาร ในกรณีที่ยังคงไม่ยุติการโฆษณา อีกทั้งจะได้ดำเนินการประสานไปยังโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีให้ระงับการเสนอโฆษณาดังกล่าวด้วย
เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ อย.กำลังดำเนินการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ อีกหลายรายการที่โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านทางสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองมิให้เกิดการหลอกลวงผู้บริโภคอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายมีจริยธรรม และเห็นแก่ความปลอดภัยของผู้บริโภค อย่าโฆษณาด้วยวิธีต่างๆ ในลักษณะที่เกินเลยความเป็นจริง มิเช่นนั้น อย.จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้บริโภคหากพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่โอ้อวดเกินจริง ขอให้แจ้งร้องเรียนได้ที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ชั้น 1 ตึก อย.หรือสายด่วน อย.1556 หรือ E-mail : 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี 11004
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากนโยบาย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ปกป้องมิให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ปฏิบัติการเชิงรุกตรวจสอบโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพทุกผลิตภัณฑ์ทางสื่อต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ พบว่ามีการโฆษณาผลิตภัณฑ์อาหาร “เอนไซม์ เจนิฟู้ด” ซึ่งขอขึ้นทะเบียนกับ อย.เป็นเครื่องดื่มพืชผักผลไม้ผสม (ตราเจนิฟู้ด) แต่โฆษณาอ้างว่าเป็น “เอนไซม์” ทางสื่อโทรทัศน์ดาวเทียมและเคเบิลทีวี ได้แก่ Nation Channel, I Channel, Thai Vision, KM Channel, Home Channel, MVTV 5, Star Channel, iNews Channel, MYTV, Nice Channel, Variety Channel เป็นต้น มีข้อความโฆษณาอวดอ้างรักษาได้สารพัดโรค เช่น ป้องกัน ยับยั้ง ต่อต้าน ทำลายโรคต่างๆ เป็นทางเลือกที่ได้ผลสูง, รักษาแผลกดทับเนื่องจากอัมพฤกษ์, ใช้โรยแผลที่มีเนื้อมะเร็ง แผลบวม มีหนอง จะช่วยดูดซับสารพิษทั้งหมด ฯลฯ โดยนำบทสัมภาษณ์ผู้ป่วย อาทิ ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน เบาหวาน ความดัน มะเร็ง ไขมันอุดตัน มะเร็งเต้านม หัวใจตีบ ฯลฯ ที่รับประทานผลิตภัณฑ์เอนไซม์ดังกล่าวแล้วอาการป่วยดีขึ้น หรือหายจากอาการป่วย หรือนำผู้ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในสังคมมาโฆษณา เพื่อจูงใจให้ตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้ ทั้งนี้ อย.ขอเตือนให้ผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด เพราะผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจัดเป็นอาหารไม่ใช่ยา จึงไม่มีสรรพคุณในการบำบัดรักษาโรคได้ หากผู้บริโภคหลงเชื่อซื้อหามารับประทาน นอกจากจะสิ้นเปลืองเงินทองโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังอาจทำให้พลาดโอกาสที่จะได้รับการรักษาโรคอย่างถูกต้อง รวมถึงอาจได้รับอันตรายจากผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอีกด้วย ซึ่ง อย.จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด โดยจะปรับในฐานความผิดที่มีการโฆษณาต่างกรรมต่างวาระ เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้หลาบจำ กล่าวคือ เงินค่าปรับ จะทวีคูณตามจำนวนครั้งที่พบการโฆษณา และจะมีคำสั่งระงับการโฆษณา ซึ่งหากฝ่าฝืนคำสั่งระงับโฆษณาจะมีโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงจะมีการเสนอคณะกรรมการอาหารในการออกคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตผลิตอาหาร ในกรณีที่ยังคงไม่ยุติการโฆษณา อีกทั้งจะได้ดำเนินการประสานไปยังโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีให้ระงับการเสนอโฆษณาดังกล่าวด้วย
เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า ขณะนี้ อย.กำลังดำเนินการตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นๆ อีกหลายรายการที่โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านทางสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อคุ้มครองมิให้เกิดการหลอกลวงผู้บริโภคอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายมีจริยธรรม และเห็นแก่ความปลอดภัยของผู้บริโภค อย่าโฆษณาด้วยวิธีต่างๆ ในลักษณะที่เกินเลยความเป็นจริง มิเช่นนั้น อย.จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด สำหรับผู้บริโภคหากพบการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่โอ้อวดเกินจริง ขอให้แจ้งร้องเรียนได้ที่ศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ชั้น 1 ตึก อย.หรือสายด่วน อย.1556 หรือ E-mail : 1556@fda.moph.go.th หรือ ตู้ ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี 11004