เลขาฯ แพทยสภา เผย เตรียมเชือดหมอเจ้าของคลินิกแท้งเถื่อน “24 น.คลีนิคเวชกรรม” ซ.จรัญสนิทวงศ์ 68 หากพิจารณาพบร่วมลงมือทำแท้งด้วย โทษถึงยึดใบประกอบวิชาชีพและดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากพบเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด โดนพักใบประกอบฯ แน่ ชี้ แพทย์ปล่อยให้คลินิกรับทำแท้งทำภาพลักษณ์เสีย ระบุเร่งดำเนินกสนปลูกฝังจริยธรรมแพทย์รุ่นใหม่
จากกรณีที่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจจับคลินิกทำแท้งเถื่อน “24 น.คลีนิคเวชกรรม” ซ.จรัญสนิทวงศ์ 68 กทม.ได้สั่งปิดคลินิกดังกล่าวชั่วคราว 60 วัน และเตรียมส่งชื่อ นพ.มนูญ จิรัฐติการกิจ แพทย์เจ้าของกิจการเพื่อให้คณะกรรมการแพทยสภามีการพิจารณาความผิดนั้น
ล่าสุดนพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวถึงกรณีแพทย์จากในข่าวที่ปรากฏว่า แพทย์เจ้าของคลินิก มีการปล่อยให้มีการทำแท้งในคลินิกของตนเอง รวมทั้งยังปล่อยให้ผู้ที่ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะมาดำเนินการในคลินิกของตนนั้น หากมีการพิสูจน์ความจริงแล้วพบว่ามีความผิดจริงๆ ทางแพทยสภาก็จะดูเป็น 2 ส่วน คือ หากพิสูจน์ทราบว่าแพทย์คนดังกล่าวได้มีการทำแท้งร่วมด้วยก็จะต้องพิจารณาโทษด้วยการยึดใบประกอบวิชาชีพ ส่วนบทลงโทษเชิงอาญาเกี่ยวกับการทำแท้งผิดกฎหมาย ต้องขึ้นอยู่กับศาลตัดสิน แต่หากพิจารณาแล้วพบว่ามีความผิดแค่สมรู้ร่วมคิดก็จะถูกลงโทษโดยการพักใบประกอบวิชาชีพ
“กรณีนี้ก็จะมีโทษคล้ายๆ กับรัฐกรคลินิกที่ ซอยรามคำแหง 24 คือ เข้าข่ายการทำผิดตามข้อบังคับแพทยสภาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ และผิดหลัก พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 ฐานให้คนอื่นประกอบวิชาชีพเวชกรรมแทน และผิดกฎหมายอาญาฐานสมรู้ร่วมคิดในการกระทำความผิด ซึ่งถือว่าขัดต่อจริยธรรมของแพทย์เช่นกัน ซึ่งกรณีการทำแท้งเถื่อนโดยแพทย์ผู้มีใบประกอบวิชาชีพนั้น เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปี ที่แล้ว ราว 2 คดี โดยแพทยสภาได้ตัดสินให้ยึดใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เนื่องจากยุติการตั้งครรภ์โดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่สมควร” นพ.สัมพันธ์ กล่าว
เลขาธิการแพทยสภา กล่าวเพิ่มว่า จากกรณีที่มีการจับกุมทั้งแพทย์เถื่อน ผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ, ใบอนุญาตเปิดคลินิก และจับกุมแพทย์ผู้ที่มีใบประกอบวิชาชีพแต่ปล่อยให้ผู้อื่นใช้สถานที่ในการทำแท้งผิดกฎหมาย มีผลทำให้ภาพลักษณ์ของแพทย์ เสื่อมเสียไม่เบาเช่นกัน ดังนั้นในกรณีนี้การหาทางออกที่ดี คงไม่ใช่แค่การมุ่งลงโทษ หรือมุ่งแค่การเอาผิดกับแพทย์ หากแต่ต้องเร่งดำเนินการปลูกฝังจริยธรรมแก่แพทย์รุ่นใหม่ด้วย เพื่อที่จะได้สร้างภาพลักษณ์ด้านบวกบ้าง