รมว.ศธ.ให้ สพท.สั่งระงับ พาวเวอร์ มาย แคมป์ (PMC) ดำเนินการชั่วคราว สั่งผู้ตรวจราชการศธ.ตรวจสอบข้อเท็จจริง 1 เดือน หากไม่แล้วเสร็จให้ดีเอสไอเข้ามาดูแล หากพบโรงเรียนใดกระทำผิด พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาค่ายพิเศษเสริมสร้างพัฒนาการเด็กอายุ 6-12 ปี หรือ พาวเวอร์ มาย แคมป์ (PMC) ที่ถูกระบุว่า เป็นการแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์นั้น ว่า ในขณะนี้ตนได้สั่งให้ทางผู้ตรวจราชการกระทรวงที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่ในสถานที่ตั้งของโรงเรียนดังกล่าว เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด และเข้าใจว่า ทางเขตพื้นที่ได้สั่งให้หยุดการเรียนการสอนชั่วคราวไปแล้ว แน่นอนถ้าเกิดกระบวนการเรียนการสอนโดยไม่สอดรับกับหลักสูตร หรือว่าเป็นกิจกรรมกรรมเสริมหลักสูตร ทางกระทรวงศึกษาธิการก็ไม่ยอมอยู่แล้ว เราจะดำเนินการเข้าไปดูแลในส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการอ้างว่า ไม่ใช่หลักสูตร แต่เป็นการฝึกการพัฒนาในแคมป์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหัวละ 12,000 บาท นายชินวรณ์ กล่าวว่า ถ้านำนักเรียนเข้าไปเราต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องด้วยว่าให้โรงเรียนสามารถที่จะทำความเข้าใจกับการเลือกของนักเรียน และเข้าไปดำเนินการในการจัดตั้งเพียงเพื่อทำธุรกิจการศึกษา ตนคิดว่า ทางกระทรวงมีอำนาจในการจัดการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้อยู่
เมื่อถามว่า ถ้าค่ายเสริมสร้างพัฒนาการดังกล่าว ไม่ได้จดทะเบียนเป็นโรงเรียน แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการ สามารถเข้าไปจัดการได้ใช่หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า แน่นอนเพราะการที่จะขอเปิดเป็นโรงเรียนจะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งดำเนินการแล้ว ที่ต้องมีมาตรการเร่งด่วน คือ ในเรื่องของการอ้างตัวเป็นสถานศึกษา หรือสถาบันกวดวิชา ซึ่งได้สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ผลเด็ดขาด ภายใน 1 เดือน พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา ไปตรวจสอบในเรื่องของปริญญาบัตรปลอมที่ออกมาตามเว็บไซต์ต่างๆ ด้วย ซึ่งให้เวลาในการดำเนินการใน 1 เดือนเช่นกัน ถ้าหากไม่เรียบร้อย ตนจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้ามาดูแล
เมื่อถามต่อว่า หากตรวจสอบพบหลักสูตรดังกล่าวไม่สามารถเป็นไปได้จริง กระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินการอย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า จะสั่งให้ไปตรวจสอบ ซึ่งเข้าใจว่า ถ้าเป็นหลักสูตรที่ไม่ตรงกับกิจกรรมเสริมหลักสูตร และสอดรับกับหลักสูตรแกนก็จะสั่งปิดดำเนินการและหากเข้าข่ายกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอื่นใดจะสั่งให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่และผู้ตรวจการที่ได้รับมอบหมายไปแล้วดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นหลักสูตรที่รับได้หรือไม่ เพราะอ้างเป็นหลักวิทยาศาสตร์ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นรายละเอียด เพราะฉะนั้นเราต้องทำทั้งสองด้าน คือ การสร้างความเข้าใจกับสถานศึกษาที่จะต้องแนะนำนักเรียน การที่จะไปเรียนเสริมหลักสูตรในด้านใดที่เป็นประโยชน์กับตัวเองและเป็นประโยชน์ต่อการเสริมการเรียนการสอนให้ดีขึ้น ขณะเดียวกัน ได้มอบให้ผู้ตรวจราชการไปตรวจสอบในกรณีที่สถาบันเปิดหลักสูตรเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งการทำมาหากินหรือเป็นแหล่งที่ไปหาผลประโยชน์โดยไม่ชอบ
