“จุรินทร์” สรุป 21 นโยบายเด่น สธ.ปี 54 เดินหน้าเมดิคอลฮับ-หนุนสาธารณสุข เข้าสู่ประชาคมอาเซียน แย้มเตรียมทุ่ม 500 ล้านบาท ผุดโรงพยาบาลชุมชน 54 แห่ง ในอำเภอเกิดใหม่
วันนี้ (10 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการสรุปนโยบายของกระทรวงทั้งในส่วนของนโยบายต่อเนื่องในปี 2553 และนโยบายใหม่ที่จะดำเนินการในปี 2554 จำนวนทั้งหมด 21 เรื่อง โดยนโยบายที่ได้ดำเนินการไปแล้วและจะพัฒนาต่อในปี 2554 ได้แก่ เรื่องบริการรักษาฟรี 48 ล้านคนด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งในปีนี้จะมีการเร่งดูแลเรื่องมาตรฐานการบริการของสถานพยาบาลเป็นหลัก เช่น ตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ การบริการของบุคลากร เป็นต้น, โครงการเพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิว โดยในเดือน ม.ค นี้ ทางกระทรวงจะมีการรายงานผลระดับไอคิวของเด็กไทย, โครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งจะยกระดับสถานีอนามัยเป็น รพ.สต.แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ โครงการพัฒนา รพ.3 ดี ฯลฯ, โครงการลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรคนโยบายลดเหล้า บุหรี่ และการแก้ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ,โครงการ สธ.เพื่อการท่องเที่ยวซึ่งปี 54 คาดว่าจะดำเนินการได้ใน 10 จังหวัด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมส้วมสะอาดในปั๊มน้ำมันและร้านอาหาร, นโยบายเรื่องการพึ่งตนเองด้านวัคซีน, การตรวจสุขภาพผู้นำศาสนาโดยจะดำเนินการเริ่มตรวจรักษาฟรีในช่วงเดือน ก.พ.นี้, โครงการตรวจคัดกรองมะเร็ง, นโยบายแผนรับมือกับการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ, นโยบายการดูแลคนพิการ, นโยบายคุ้มครองผู้บริโภค,นโยบายการผลิตแพทย์ และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ 23 รายการ ,และโครงการเรื่องของการออกระเบียบการเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ให้มีความเป็นทางการและเป็นรูปธรรมมากขึ้น, สำหรับนโยบายด้านการแก้ปัญหาระบบบริการรักษาพยาบาลนั้น ได้แก่ เรื่องการลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ.รพท.)
“นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเดินหน้านโยบายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพ หรือ เมดิคอลฮับ (Medical Hub) โดยปี 2554 สามารถดำเนินการได้ใน 3 ส่วนได้แก่ 1.การส่งเสริมสปาไทย นวดแผนไทย 2.การผลิตแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก และ 3. การพัฒนายาสมุนไพร โดย 3 ส่วนนี้ไม่มีฝ่ายใดคัดค้านแล้วก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ทันที สำหรับเรื่องของการรักษาสุขภาพนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งทำประชาพิจารณ์อยู่” นายจุรินทร์ กล่าว
รมว.สธ.กล่าวว่า สำหรับแผนงานและนโยบายที่กำลังจะเริ่มขึ้นในปี 2554 ที่สำคัญ ซึ่งที่ประชุมมีการหารือกันในวันนี้ ได้แก่ แนวทางการผลักดันระบบสาธารณสุข ให้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนให้ได้ภายในปี 2555 ซึ่งจากเดิมนั้นประชาสังคมอาเซียนให้ความสำคัญเฉาพะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่หลังจากนี้ จะหันมาให้ความสำคัญกับด้านสังคมด้วย โดยการสาธารณสุขถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมด้วย ส่วนโครงการน้องใหม่ที่กำลังจะดำเนินการโดยเร็วเช่นกัน คือ การสร้างโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ในอำเภอเกิดใหม่ของไทย 54 แห่ง ซึ่งเบื้องต้น สธ.อาจต้องมอบงบประมาณสำหรับลงทุนก่อสร้างอาคารบริการผู้ป่วยนอกก่อนราว 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ เพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถดำเนินการต่อไปได้
วันนี้ (10 ม.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการสรุปนโยบายของกระทรวงทั้งในส่วนของนโยบายต่อเนื่องในปี 2553 และนโยบายใหม่ที่จะดำเนินการในปี 2554 จำนวนทั้งหมด 21 เรื่อง โดยนโยบายที่ได้ดำเนินการไปแล้วและจะพัฒนาต่อในปี 2554 ได้แก่ เรื่องบริการรักษาฟรี 48 ล้านคนด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ซึ่งในปีนี้จะมีการเร่งดูแลเรื่องมาตรฐานการบริการของสถานพยาบาลเป็นหลัก เช่น ตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ การบริการของบุคลากร เป็นต้น, โครงการเพิ่มไอโอดีน เพิ่มไอคิว โดยในเดือน ม.ค นี้ ทางกระทรวงจะมีการรายงานผลระดับไอคิวของเด็กไทย, โครงการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งจะยกระดับสถานีอนามัยเป็น รพ.สต.แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.นี้ โครงการพัฒนา รพ.3 ดี ฯลฯ, โครงการลดหวาน มัน เค็ม ลดอ้วน ลดโรคนโยบายลดเหล้า บุหรี่ และการแก้ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ,โครงการ สธ.เพื่อการท่องเที่ยวซึ่งปี 54 คาดว่าจะดำเนินการได้ใน 10 จังหวัด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการส่งเสริมส้วมสะอาดในปั๊มน้ำมันและร้านอาหาร, นโยบายเรื่องการพึ่งตนเองด้านวัคซีน, การตรวจสุขภาพผู้นำศาสนาโดยจะดำเนินการเริ่มตรวจรักษาฟรีในช่วงเดือน ก.พ.นี้, โครงการตรวจคัดกรองมะเร็ง, นโยบายแผนรับมือกับการเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุ, นโยบายการดูแลคนพิการ, นโยบายคุ้มครองผู้บริโภค,นโยบายการผลิตแพทย์ และกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ 23 รายการ ,และโครงการเรื่องของการออกระเบียบการเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) ให้มีความเป็นทางการและเป็นรูปธรรมมากขึ้น, สำหรับนโยบายด้านการแก้ปัญหาระบบบริการรักษาพยาบาลนั้น ได้แก่ เรื่องการลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ.รพท.)
“นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมเดินหน้านโยบายการเป็นศูนย์กลางสุขภาพ หรือ เมดิคอลฮับ (Medical Hub) โดยปี 2554 สามารถดำเนินการได้ใน 3 ส่วนได้แก่ 1.การส่งเสริมสปาไทย นวดแผนไทย 2.การผลิตแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก และ 3. การพัฒนายาสมุนไพร โดย 3 ส่วนนี้ไม่มีฝ่ายใดคัดค้านแล้วก็จะสามารถดำเนินการต่อไปได้ทันที สำหรับเรื่องของการรักษาสุขภาพนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งทำประชาพิจารณ์อยู่” นายจุรินทร์ กล่าว
รมว.สธ.กล่าวว่า สำหรับแผนงานและนโยบายที่กำลังจะเริ่มขึ้นในปี 2554 ที่สำคัญ ซึ่งที่ประชุมมีการหารือกันในวันนี้ ได้แก่ แนวทางการผลักดันระบบสาธารณสุข ให้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนให้ได้ภายในปี 2555 ซึ่งจากเดิมนั้นประชาสังคมอาเซียนให้ความสำคัญเฉาพะเรื่องเศรษฐกิจเท่านั้น แต่หลังจากนี้ จะหันมาให้ความสำคัญกับด้านสังคมด้วย โดยการสาธารณสุขถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมด้วย ส่วนโครงการน้องใหม่ที่กำลังจะดำเนินการโดยเร็วเช่นกัน คือ การสร้างโรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ในอำเภอเกิดใหม่ของไทย 54 แห่ง ซึ่งเบื้องต้น สธ.อาจต้องมอบงบประมาณสำหรับลงทุนก่อสร้างอาคารบริการผู้ป่วยนอกก่อนราว 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการ เพื่อให้แต่ละพื้นที่สามารถดำเนินการต่อไปได้