วุ่น ครม.ย้ายประชุมจากราบ 11 มา สธ.รอบ 2 ขรก.จนท.ไม่รู้ล่วงหน้า บ่นอุบ จราจรติดหนึบ พบเสื้อแดงขับรถวนสังเกตการณ์ภายในกระทรวง เตือนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ อย่าจอดรถบริเวณจุดเกิดเหตุระเบิดลานจอดรถใกล้ทางด่วน หวั่นซ้ำรอย ขณะที่รถที่ได้รับความเสียหาย 4 คัน “สุเทพ” รับช่วยเหลือใช้งบกลางดูแล
วันที่ 28 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) บรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งย้ายที่ประชุมจากกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์มาที่ สธ.ครั้งที่ 2 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สธ. ยังคงเดินทางเข้าทำงานตามปกติ โดยที่ไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีการประชุม ครม.ขึ้น ทำให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ต่างบ่นไม่พอใจถึงความไม่สะดวก เนื่องจากการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
สำหรับการดูแลความปลอดภัยสถานที่ประชุม มีการตรวจตราอย่างเข้มงวด โดยอนุญาตให้เข้าออกเพียง 3 ประตูเท่านั้น คือ ประตูทางเข้าโรงพยาบาล (รพ.) ศรีธัญญา ประตูทางเข้าซอยอัคนี และประตูทางเข้าสภาการพยาบาล ส่วนที่อีก 2 ประตู คือ ประตูทางเข้าสำนักงานอาหารและยา (อย.) และประตูทางเข้าโรงพยาบาลบำราศ มีการนำลวดหนามมาวางขวางทางเข้าออกไว้ ขณะที่อาคารสำนักปลัด สธ.ซึ่งเป็นที่ใช้จัดประชุม ครม.มีการนำเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดมาวาง และตรวจสอบบุคคลเข้าออกทุกคน พร้อมทั้งห้ามบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาภายในบริเวณดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่ อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาความปลอดภัยของทหาร ตำรวจในการประชุมครั้งนี้ ถือว่าน้อยกว่าการประชุม ครม.ครั้งที่ผ่านมา โดยมีกำลังทหาร 5 กองร้อย และ ตำรวจ 2 กองร้อย นอกจากนี้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรถกระบะ 3 คัน ของกลุ่มคนเสื้อแดง เนื่องจากสังเกตพบว่า คนขับสวมเสื้อสีแดง พร้อมติดริบบิ้นแดงผูกบริเวณกระจกมองข้าง เข้ามาสังเกตการณ์ภายในกระทรวง ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และออกทางประตูสภาพยาบาล โดยไม่มีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ตนเพิ่งได้รับแจ้งเมื่อช่วงกลางคืนของวันที่ 29 มีนาคม โดยข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สธ.ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เนื่องจากเชื่อว่าข้าราชการไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนเส้นทางเข้าออกในกระทรวงจะเหลือเพียง 3 เส้นทาง คือ ประตูทางเข้าโรงพยาบาล (รพ.) ศรีธัญญา ประตูทางเข้าซอยอัคนี และประตูทางเข้าสภาการพยาบาล
ด้านนพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมรับมือด้านการแพทย์ฉุกเฉินยังคงใช้แผนวงแหวน 2 ชั้น ที่มี รพ.พระนั่งเกล้า รพ.โรคทรวงอก รพ.บำราศนราดูร รพ.ศรีธัญญา รับในการส่งต่อผู้ป่วยหากมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น
ส่วนพื้นที่ใกล้ทางด่วนที่เคยเกิดเหตุระเบิด ซึ่งเป็นสถานที่ของ สพฉ.นั้น ได้ส่งการให้เจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่งดการจอดรถใกล้พื้นที่ดังกล่าว เพื่อความปลอดภัย และขอให้นำรถเข้าไปภายในอาคาร ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ได้รับทราบว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะรับช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายให้กับเจ้าของรถยนต์ 4 คัน ที่เกิดผลกระทบจากแรงระเบิด โดยใช้งบประมาณกลางดูแล
