“สุเทพ” แจงย้ายที่ประชุม ครม.จากราบ 11 มากระทรวงสาธารณสุข เพราะ รมต.ติดใจบริการดี เข้า-ออกสะดวก ปัดหนีไพร่แดงประกาศยกระดับการชุมนุมให้เข้มข้นขึ้น เผยหนักใจเหตุบึ้ม เร่งแผนแบ่ง 7 โซนคุมเข้มกรุงเทพฯ พร้อมชง ครม.ต่ออายุ พ.ร.บ.ความมั่นคง ขณะเดียวกันยอมรับรัฐบาลรู้ “นช.แม้ว” คุมเกมม็อบและการเจรจา แต่ทำอะไรไมได้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนการประชุม ครม.ถึงเหตุผลในการเปลี่ยนสถานที่ประชุม ครม.จากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) มาเป็นที่กระทรวงสาธารณสุขว่า เดิมตั้งใจจะใช้ ร.11 รอ. เพราะตนต้องทำงานอยู่ที่นั่นในฐานะ ผอ.ศอ.รส. แต่ทางบรรดารัฐมนตรีต่างบอกว่าติดใจการประชุมคราวที่แล้วที่กระทรวงสาธารณสุขบริการเป็นอย่างดี และสะดวกดีไปมาเข้าออกง่ายมีทางเข้าออกหลายทาง จึงเพิ่งตัดสินใจเปลี่ยนเมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการลดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการ รปภ.นั้นเราก็ดูแลพอสมควร เพราะเกรงใจข้าราชการที่มาปฏิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุข มายืมใช้สถานที่เขาแล้วถ้าเข้มงวดมากไปเขาก็จะเดือดร้อนอึดอัด
ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับที่กลุ่มคนเสื้อประกาศยกระดับการชุมนุมเข้มข้นอีกภายหลังการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำ นปช.ล้มเหลว และไม่ได้กังวลในประเด็นว่า ร.11 รอ.จะเป็นเป้าหมายเนื่องจากเป็นศูนย์กลางอำนาจ แต่เราอยากได้สถานที่ที่เหมาะสม ทุกคนไปมาสะดวก
ผู้สื่้อข่าวถามว่าไม่กลัวจะเกิดเหตุซ้ำรอยหรือ เพราะคราวที่แล้วก็เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามา 2 ลูก นายสุเทพกล่าวว่า ก็ต้องดูกัน เราต้องพยายามระวังป้องกัน คิดว่าเจ้าหน้าที่เคยมีประสบการณ์แล้วคงดูแลป้องกันได้
ส่วนการเตรียมรับมือกลุ่มเสื้อแดงที่ประกาศสู้ต่อหลังการเจรจาล้มเหลวนั้น นายสุเทพกล่าวว่า ยังดูแลเหมือนเดิม เพราะเป็นห่วงกังวลมากว่าจะมีมือที่สามที่สี่ไปสร้างสถานการณ์ในกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วจะเอาไปเป็นเหตุกล่าวอ้างขยายใหญ่โต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่อยู่รอบๆ หรือใกล้ๆ บริเวณผู้ชุมนุมจะไม่ถืออาวุธ มีเพียงโล่ เครื่องมือป้องกันตัว ส่วนบริเวณวงนอกทั่วพื้นที่กรุงเทพฯก็จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร พลเรือน ร่วมกันตั้งด่านตรวจตามจุดต่างๆ และมีสายตรวจพิเศษตรวจตราถนนหนทางเพื่อลดโอกาสที่จะมีคนฉวยโอกาสก่อเหตุร้ายก็พยายามอยู่ ขณะเดียวกันก็เร่งรัดให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนหาคนร้ายที่ก่อเหตุร้ายครั้งก่อนๆ มาลงโทษให้ได้
สำหรับความคืบหน้าทางคดีที่มอบให้ตำรวจมือดีไปเร่งดำเนินการนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ตนเรียกประชุมผู้รับผิชดอบแต่ละคดีของ บช.น.และได้ย้ำว่าแต่ละคดีขอให้จัดทีมขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อสืบสวนสอบสวนเป็นพิเศษ กรณีอาวุธสงครามก็มีความคืบหน้าอยู่บ้าง เมื่อตำรวจทำงานแล้วต้องรายงานให้ ศอ.รส.ทราบเป็นระยะและแถลงให้ประชาชนทราบบ้าง เพื่อให้มีความเข้าใจได้ว่าการทำงานได้ผลหรือไม่อย่างไร โดย ศอ.รส.พร้อมจะให้การสนับสนุนทุกอย่าง
นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศขยายเวลาการใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ออกไปอีก 7 วัน เพราะผู้ชุมนุมยังไม่เลิก และสถานการณ์ยังจะต้องจับตาระมัดระวังดูแลต่อไป โดยประกาศพื้นที่ความมั่นคงเหมือนเดิม คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี 2 อำเภอ และสมุทรปราการ 5 อำเภอ ถ้าเขาเลิกได้เร็วกว่านั้นเราก็เลิก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศยกระดับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงคิดว่าจะรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ตนยังไม่เข้าใจว่าการยกระดับการชุมนุมจะหมายความว่าอย่างไร แต่ตนไม่มองอะไรในแง่ร้ายเขาอาจจะขยายตัวหรือขยายจำนวนก็แล้วแต่ ก็เหตุร้ายต่างๆ เป็นหน้าที่ของ ศอ.รส.ต้องดูแลแก้ไขไปตามสถานการณ์ ซึ่งการปรับพื้นที่ให้กำลังทหารแต่ละหน่วยแยกคุม 7 โซนก็เป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนปรับปรุงมาตรการให้แข็งแรงต้องเปลี่ยนไปเรื่อย
ทั้งนี้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังคงวิดีโอลิงก์มาตลอดเวลา ส่งผลต่อการควบคุมสถานการณ์การชุมนุม เพราะแม้แต่เรื่องของการเจรจา ตนสังเกตดูมีการส่งบันทึกเล็กๆ แลกเปลี่ยนหลังจากรับโทรศัพท์ก็คงมีผล แต่ทางรัฐบาลคงไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ เพราะขณะนี้ก็หาตัว พ.ต.ท.ทักษิณไม่ค่อยเจอ เขาก็เคลื่อนไหวไปเรื่อย คงติดตามตัวได้ยาก