อธิการบดี ม.รามฯ เผยมีหอพัก 118 แห่งจาก 238 แห่ง ร่วมโครงการจัดระเบียบหอพักรอบมหาวิทยาลัย ผ่านเกณฑ์ 69 แห่ง ติด 5 ดาวเพียง 5 แห่ง นศ.ระบุปัญหาข้างห้องเมา ทะเลาะวิวาท ส่งเสียงดัง
วันนี้ (29 มี.ค.) รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวภายในงานการประชุมชี้แจงแนวทางการพัฒนามาตรฐานหอพักให้เป็นหอพักติดดาวว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินงานโครงการหอพักสีขาวรณรงค์ให้หอพักมีความปลอดภัย ปราศจากยาเสพติด ถูกสุขลักษณะ ขณะนี้กำลังพัฒนามาตรฐานของหอพักนักศึกษาให้เป็นหอพักติดดาว โดยจัดโครงการสร้างความสัมพันธ์และขยายเครือข่ายหอพักบริเวณรอบมหาวิทยาลัยและดำเนินการจัดการจัดระเบียบ โดยการดึงภาคส่วนต่างๆเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งปรากฏว่าจากหอพักทั้งหมด 238 แห่ง มีจำนวน 118 แห่งที่ได้เข้าร่วมรับพิจารณาประเมินคุณภาพเพื่อรับรองมาตรฐานการจัดการและการให้บริการหอพัก พบเพียง 69 แห่งผ่านประเมินหลักเกณฑ์หอพักติดดาว และมี 5 แห่งที่ได้รับการประเมินระดับ 5 ดาว
“การจัดทำโครงการนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการหอพักพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานหอพัก เพื่อประโยชน์ของนักศึกษาที่จะมาพักอาศัยระหว่างเรียน สร้างความมั่้นใจให้แก่ผู้ปกครองว่าบุตรหลานมาพักอาศัยแล้วปลอดภัย ขณะเดียวกันเจ้าของหอพักจะมีรายได้เพิ่มขึ้น” อธิการบดีกล่าว
ด้าน นายอาณัติ แย้มอยู่ ผู้แทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการหอพักจะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.หอพัก และหอพักต้องมีใบอนุญาตและต่อใบอนุญาตทุกๆ สิ้นปี ซึ่งทางกระทรวงจะจัดหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ สำหรับพื้นที่ย่านรามคำแหงขณะนี้มีหอพักใหม่ ที่ยังไม่ได้จด จึงเป็นหอพักเถื่อนอยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบอีกว่าผู้จัดการ หรือเจ้าของหอพัก ไม่ได้อยู่ที่หอพัก กลับปล่อยให้แม่บ้านดูแลหอพัก
พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า อยากให้ผู้ประกอบการหอหักปฏิบัติตามกฎหมาย แยกหอพักหญิง หอพักชาย เพราะการมาอยู่หอพักเพื่อมาศึกษาเล่าเรียน และหอพักควรมีความปลอดภัยเหมือนพักอาศัยในบ้าน อย่างไรก็ตาม หากมีอันตรายให้โทร.แจ้งตำรวจ แต่จริงแล้ววิธีการแก้ปัญหารวดเร็วที่สุดและทันต่อสถานการณ์ คือการดูแลซึ่งกันและกัน ควรทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมหอพัก เพราะปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตแบบตัวใครตัวมัน แค่กำแพงกันก็ไม่รู้จักดัน จึงอยากให้มีการจัดกิจกรรมให้ชาวหอทำร่วมกันจะได้รู้จักกัน
ด้าน สุกัญญา ไชยโคตร นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มร.กล่าวในฐานะพักอยู่หอหลังราม แสดงความเห็นว่า หอพักได้มีการพัฒนาให้ดูดีและน่าอยู่ขึ้นจากแต่ก่อนมาก แต่ยังมีสภาพเสื่อโทรมและมีปัญหา ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยๆ การส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาท ดื่มสุรา เป็นต้น ถึงแม้ว่าเจ้าของหอจะมาปรามแล้วแต่เด็กไม่ฟัง ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ควรมีการเข้มงวดเรื่องเหล่านี้เพื่อให้หอพักน่าอยู่ อีกทั้งควรมีเกณฑ์ราคาค่าหอพัก เพื่อให้นักศึกษา ราคาควรอยู่ที่ 2,500-3,000 บาท หากสูงกว่านี้คงไม่ไหว
วันนี้ (29 มี.ค.) รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวภายในงานการประชุมชี้แจงแนวทางการพัฒนามาตรฐานหอพักให้เป็นหอพักติดดาวว่า หลังจากที่มหาวิทยาลัยได้ดำเนินงานโครงการหอพักสีขาวรณรงค์ให้หอพักมีความปลอดภัย ปราศจากยาเสพติด ถูกสุขลักษณะ ขณะนี้กำลังพัฒนามาตรฐานของหอพักนักศึกษาให้เป็นหอพักติดดาว โดยจัดโครงการสร้างความสัมพันธ์และขยายเครือข่ายหอพักบริเวณรอบมหาวิทยาลัยและดำเนินการจัดการจัดระเบียบ โดยการดึงภาคส่วนต่างๆเข้ามาช่วยดูแล ซึ่งปรากฏว่าจากหอพักทั้งหมด 238 แห่ง มีจำนวน 118 แห่งที่ได้เข้าร่วมรับพิจารณาประเมินคุณภาพเพื่อรับรองมาตรฐานการจัดการและการให้บริการหอพัก พบเพียง 69 แห่งผ่านประเมินหลักเกณฑ์หอพักติดดาว และมี 5 แห่งที่ได้รับการประเมินระดับ 5 ดาว
“การจัดทำโครงการนี้เพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการหอพักพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานหอพัก เพื่อประโยชน์ของนักศึกษาที่จะมาพักอาศัยระหว่างเรียน สร้างความมั่้นใจให้แก่ผู้ปกครองว่าบุตรหลานมาพักอาศัยแล้วปลอดภัย ขณะเดียวกันเจ้าของหอพักจะมีรายได้เพิ่มขึ้น” อธิการบดีกล่าว
ด้าน นายอาณัติ แย้มอยู่ ผู้แทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ผู้ประกอบการหอพักจะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.หอพัก และหอพักต้องมีใบอนุญาตและต่อใบอนุญาตทุกๆ สิ้นปี ซึ่งทางกระทรวงจะจัดหน่วยให้บริการเคลื่อนที่ไปตามพื้นที่ สำหรับพื้นที่ย่านรามคำแหงขณะนี้มีหอพักใหม่ ที่ยังไม่ได้จด จึงเป็นหอพักเถื่อนอยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ยังพบอีกว่าผู้จัดการ หรือเจ้าของหอพัก ไม่ได้อยู่ที่หอพัก กลับปล่อยให้แม่บ้านดูแลหอพัก
พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า อยากให้ผู้ประกอบการหอหักปฏิบัติตามกฎหมาย แยกหอพักหญิง หอพักชาย เพราะการมาอยู่หอพักเพื่อมาศึกษาเล่าเรียน และหอพักควรมีความปลอดภัยเหมือนพักอาศัยในบ้าน อย่างไรก็ตาม หากมีอันตรายให้โทร.แจ้งตำรวจ แต่จริงแล้ววิธีการแก้ปัญหารวดเร็วที่สุดและทันต่อสถานการณ์ คือการดูแลซึ่งกันและกัน ควรทำความรู้จักกับเพื่อนร่วมหอพัก เพราะปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตแบบตัวใครตัวมัน แค่กำแพงกันก็ไม่รู้จักดัน จึงอยากให้มีการจัดกิจกรรมให้ชาวหอทำร่วมกันจะได้รู้จักกัน
ด้าน สุกัญญา ไชยโคตร นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มร.กล่าวในฐานะพักอยู่หอหลังราม แสดงความเห็นว่า หอพักได้มีการพัฒนาให้ดูดีและน่าอยู่ขึ้นจากแต่ก่อนมาก แต่ยังมีสภาพเสื่อโทรมและมีปัญหา ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยๆ การส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาท ดื่มสุรา เป็นต้น ถึงแม้ว่าเจ้าของหอจะมาปรามแล้วแต่เด็กไม่ฟัง ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ควรมีการเข้มงวดเรื่องเหล่านี้เพื่อให้หอพักน่าอยู่ อีกทั้งควรมีเกณฑ์ราคาค่าหอพัก เพื่อให้นักศึกษา ราคาควรอยู่ที่ 2,500-3,000 บาท หากสูงกว่านี้คงไม่ไหว