“จุรินทร์” สั่งกองประกอบโรคศิลปะตรวจสอบ กรณีนศ.ม.รามฯ โดนควักตา ราชวิทยาลัยจักษุฯ ชี้เป็นไปได้ฟันผุ ติดเชื้อเข้ากระแสเลือด ลามไปยังดวงตาได้
วันที่ 10 มีนาคม นพ.นรา นาควัฒนานุกูล อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีนางลีนา จังจรรจา ประธานมูลนิธิลีน่าจัง พานักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยรามคำแหงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในความผิดฐานกระทำการโดยประมาทจากการวินิจฉัยผิดส่งผลให้ตาขวาบอด จนต้องควักลูกตาออกว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สธ.ได้มอบหมายให้กองการประกอบโรคศิลปะ เข้าไปตรวจสอบแล้ว ซึ่งในส่วนของกองการประกอบโรคศิลปะ จะเข้าไปตรวจสอบมาตรฐานของสถานพยาบาลว่ามีมาตรฐานตามที่กำหนดหรือไม่
“สำหรับแพทย์ที่ทำการรักษาทางราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยจะเข้าไปตรวจสอบ หากพบว่ามีการรักษาที่ไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการยึดใบประกอบโรคศิลปะต่อไป ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายนั้นทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะมีกองทุนที่คอยให้การช่วยเหลืออยู่” นพ.นรา กล่าว
พญ.สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามข่าวที่ระบุว่าผู้ป่วยมีอาการมาจากโรคฟันผุ ติดเชื้อในช่องปากทำให้ตาบวมนั้น การที่จะเกิดความรุนแรงลามไปถึงขั้นต้องควักดวงตาออกมานั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้ เพราะหากมีการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด แพทย์ก็เกรงว่าจะลามไปยังดวงตาอีกข้าง จึงจำเป็นที่จะต้องควักลูกตาออก แต่โอกาสเกิดขึ้นถือว่าน้อยมาก ยิ่งเกิดจากการติดเชื้อรายิ่งยาก และอันตรายมากเพราะเชื้อราส่วนใหญ่ติดแล้วมักจะดื้อยา ส่วนการที่ทำให้โรคลุกลามเป็นเพราะรักษาช้าหรือไม่นั้น คงต้องขอดูประวัติการรักษาของผู้ป่วยก่อน ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์ฯ จะเข้าไปช่วยประนีประนอมและให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น
ด้าน นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดว่ากรณีดังกล่าวเกิดจากการวินิจฉัยผิดของแพทย์หรือไม่ ดังนั้น จำเป็นต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน หากพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินการด้านจริยธรรมกับแพทย์ผู้รักษาทันที อย่างไรก็ตาม อาการฟันผุขั้นรุนแรงจนถึงขั้นลุกลามติดเชื้อในดวงตา สามารถพบได้ เนื่องจากหากมีอาการฟันผุบริเวณฟันกรามด้านในมากๆ และไม่รีบไปพบแพทย์ก็จะเกิดการอักเสบไปถึงไซนัส และจะลุกลามไปยังดวงตา จนเกิดเป็นฝีเป็นหนองในเบ้าตา ทำให้ตาบอดได้ ซึ่งที่ผ่านมาตนเคยรักษาอาการลักษณะนี้ในเด็กเล็กราว 40-50 คน แต่รักษาทัน ปัจจุบันสามารถมองเห็นได้ ส่วนกรณีผู้เสียหายรายนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด
นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ได้ให้สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าเกิดขึ้นจากสถานพยาบาล หรือบุคลากร หรือสาเหตุอื่น และจะนำมาประกอบการพิจารณา พร้อมทั้งจะแจ้งให้ทราบเมื่อได้ข้อสรุปแล้ว
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ผู้ป่วยอยู่ในความดูแลของแพทย์ และผู้ที่ได้รับความเสียหายมีประกันสังคม ซึ่งขณะนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้พิการแล้ว ทั้งนี้ถือว่าการทำงานนี้เป็นการทำงานเชิงรุก ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายมาร้องเรียนที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อทราบว่าเกิดปัญหาขึ้นฝ่ายที่รับผิดชอบจะเป็นผู้ดำเนินการทันที
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 2 คน เดินทางไปที่โรงพยาบาลเอกชนย่านบางมดที่เป็นข่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานทางด้านการรักษาผู้ป่วยทั้งเวชระเบียน ประวัติการรักษา บันทึกรายงานของผู้ให้การรักษา จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐาน ทั้งเรื่องพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และมาตรฐานการรักษา มาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งคณะอนุกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย สภาวิชาชีพ ผู้แทนจากประชาชน ในการประชุมจะเชิญทั้งฝ่ายผู้ได้รับความเสียหายกับฝ่ายที่ให้บริการมาให้ข้อมูล เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจะมีการประชุมภายในเดือนนี้