สวช.ห่วงเด็กขโมยเงินผู้ปกครองเข้าร้านเกมช่วงปิดเทอม สั่ง สภว.กวดขัน ห้ามอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าก่อน 10 โมง ขู่หากมีอบายมุขปนเจอถอนใบอนุญาต พร้อมกำชับป้องกันหวัด 2009 ระบาดรอบ 2
วันนี้ (23 มี.ค.) นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ตนได้สั่งการให้สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สภว.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) กวดขัน และดูแลร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตในเรื่องการดำเนินการตรวจสอบใบประกอบกิจการตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้ง สภว.ได้มีการออกประกาศจากนายทะเบียนกลาง เรื่อง เวลาในการให้บริการการเล่นเกม ในช่วงเวลา ปิดภาคเรียน ที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2553 โดยกำหนดให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. สำหรับเด็กที่มีอายุ 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. เท่านั้น โดยผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
นายสมชายกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับภายในสถานประกอบกิจการร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต โดยกำหนดให้มีการตกแต่งร้านให้เหมาะสม มีความโปร่งใส แสงสว่างส่องเข้าถึง มีกล้องวงจรปิด มีสุขภาวะที่สะอาดในพื้นที่ให้บริการ ทั้งเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ห้องน้ำ มีการระบายอากาศ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งให้มีการดูแลพฤติกรรมการเล่นเกมของเด็กและเยาวชนอย่างเข้มงวดให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ สิ่งที่ตนอยากเน้นย้ำกับผู้ประกอบการคือให้ร้านเกมงดจำหน่าย สิ่งอบายมุข ทุกชนิด ภายในร้าน ได้แก่ เหล้า บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีร้านเกมบางร้านปฏิบัติไม่เหมาะสม มีการจำหน่ายสิ่งอบายมุขให้แก่เด็กที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน จนกลายเป็นปัญหาของสังคมอย่างมาก ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าร้านในปฏิบัติไม่เหมาะสมจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทันที
“ที่ผ่านมาปัญหาเกี่ยวกับร้านเกมรวมถึงเด็กติดเกมมีอยู่มาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะกรณีที่มีเด็กถึงขั้นขโมยของผู้อื่นแล้วนำเงินมาเล่นเกม จึงอยากฝากให้ผู้ปกครอง ช่วยดูแลบุตรหลานตนเอง ทั้งที่เล่นเกมในบ้านและนอกบ้าน อย่างใกล้ชิด ซึ่งเกมที่เด็กเล่น ซึ่งจะต้องไม่รุนแรง และไม่นำไปสู่การก่ออันตรายแก่ตัวเด็กเอง และผู้อื่น นอกจากนี้ผมยังได้ประสานกับ สารวัตรประจำสถานที่ตำรวจทุกอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศ ในการให้ช่วยดูแลเด็กและเยาวชน รวมถึงร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดด้วย” เลขาธิการ กวช.กล่าว
วันนี้ (23 มี.ค.) นายสมชาย เสียงหลาย เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียน ตนได้สั่งการให้สำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (สภว.) สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) กวดขัน และดูแลร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตในเรื่องการดำเนินการตรวจสอบใบประกอบกิจการตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 อย่างเข้มงวดมากขึ้น รวมทั้ง สภว.ได้มีการออกประกาศจากนายทะเบียนกลาง เรื่อง เวลาในการให้บริการการเล่นเกม ในช่วงเวลา ปิดภาคเรียน ที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2553 โดยกำหนดให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. สำหรับเด็กที่มีอายุ 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. เท่านั้น โดยผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
นายสมชายกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับภายในสถานประกอบกิจการร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต โดยกำหนดให้มีการตกแต่งร้านให้เหมาะสม มีความโปร่งใส แสงสว่างส่องเข้าถึง มีกล้องวงจรปิด มีสุขภาวะที่สะอาดในพื้นที่ให้บริการ ทั้งเครื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ห้องน้ำ มีการระบายอากาศ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยเฉพาะ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 รวมทั้งให้มีการดูแลพฤติกรรมการเล่นเกมของเด็กและเยาวชนอย่างเข้มงวดให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ สิ่งที่ตนอยากเน้นย้ำกับผู้ประกอบการคือให้ร้านเกมงดจำหน่าย สิ่งอบายมุข ทุกชนิด ภายในร้าน ได้แก่ เหล้า บุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีร้านเกมบางร้านปฏิบัติไม่เหมาะสม มีการจำหน่ายสิ่งอบายมุขให้แก่เด็กที่มาใช้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน จนกลายเป็นปัญหาของสังคมอย่างมาก ทั้งนี้ หากตรวจพบว่าร้านในปฏิบัติไม่เหมาะสมจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการทันที
“ที่ผ่านมาปัญหาเกี่ยวกับร้านเกมรวมถึงเด็กติดเกมมีอยู่มาก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงโดยเฉพาะกรณีที่มีเด็กถึงขั้นขโมยของผู้อื่นแล้วนำเงินมาเล่นเกม จึงอยากฝากให้ผู้ปกครอง ช่วยดูแลบุตรหลานตนเอง ทั้งที่เล่นเกมในบ้านและนอกบ้าน อย่างใกล้ชิด ซึ่งเกมที่เด็กเล่น ซึ่งจะต้องไม่รุนแรง และไม่นำไปสู่การก่ออันตรายแก่ตัวเด็กเอง และผู้อื่น นอกจากนี้ผมยังได้ประสานกับ สารวัตรประจำสถานที่ตำรวจทุกอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศ ในการให้ช่วยดูแลเด็กและเยาวชน รวมถึงร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ตให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดด้วย” เลขาธิการ กวช.กล่าว