“นริศรา” ไฟเขียวจัดซื้อครุภัณฑ์ SP2 7 กลุ่มรายการ พร้อมส่งหนังสือถึงสำนักงบฯ โอนเงินกว่า 1,000 ล้าน สู่สถานศึกษาให้ทันภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้
วันนี้ (17 มี.ค.) นพ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อครุภัณฑ์ ตามโครงการในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า คณะกรรมการตรวจสอบที่มี นายนพพร สุวรรณรุจิ ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นประธาน ได้รายงานผลการตรวจสอบมายัง น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ แล้ว
โดยพบว่า มี 7 รายการที่ไม่พบความผิดปกติ และไม่เข้าข่ายมีการกระทำในลักษณะที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ ดังนั้น จึงได้ทำหนังสือรายงานต่อ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ และ นายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เพื่อทำหนังสือถึงสำนักงบประมาณให้โอนงบประมาณให้แก่สถานศึกษา ซึ่งจะได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้
นพ.สุทธิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับครุภัณฑ์ 7 รายการ ที่ตรวจสอบพบไม่ผิดปกตินั้น ประกอบด้วย กลุ่มครุภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนชั้นสูง, กลุ่มครุภัณฑ์ยานยนต์และชิ้นส่วนพื้นฐาน, กลุ่มครุภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม, กลุ่มครุภัณฑ์สิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทน, กลุ่มครุภัณฑ์เครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มครุภัณฑ์เครื่องหนังเซรามิคและงานศิลปกรรม และ วิทยาลัยเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ โดยใช้งบประมาณเกือบ 1,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน น.ส.นริศรา ได้ตั้งคณะกรรมการเร่งรัดติดตามการดำเนินงานจัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการ SP2 โดยมี นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นประธานด้วย
“ตอนนี้งบประมาณในโครงการ SP2 ในส่วนการก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท ได้ดำเนินการเสร็จแล้ว เหลือการจัดซื้อครุภัณฑ์อีกประมาณ 4,000 ล้านบาท และการจัดซื้อเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) และอิเล็กทรอนิกส์ เกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 31 มี.ค.นี้ ไม่เช่นนั้นจะต้องส่งคืนงบ ซึ่งผู้ที่จะเสียประโยชน์คือสถานศึกษา” ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.ศธ.กล่าว
นพ.สุทธิชัย กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังเหลือกลุ่มครุภัณฑ์ที่กำลังรอผลการตรวจสอบจากคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด อีกกว่า 10 กลุ่มครุภัณฑ์ ส่วนกลุ่มที่ตรวจสอบเสร็จแล้ว ถ้าพบว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหาแต่สเปกไม่มีปัญหา เช่น กลุ่มครุภัณฑ์แม่พิมพ์ ก็จะมีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ แต่ถ้ากรณีที่มีปัญหาทั้งการจัดซื้อจัดจ้างและสเปก ก็จะมีการจัดทำสเปกใหม่ เช่น กลุ่มครุภัณฑ์ การออกแบบอัญมณี ซึ่ง นายพรหมสวัสดิ์ รายงานว่า จะเร่งเชิญผู้เกี่ยวข้องมาวางแผนจัดทำสเปกใหม่