“พรหมสวัสดิ์” ซื้อเวลาสั่งตั้งกรรมการเปรียบเทียบผลสอบจัดซื้อครุภัณฑ์ SP2 อาชีวะอีกชุด ระบุรายการไหนเจอจัดซื้อมีปัญหาจริงอาจต้องทำใหม่ ยันไม่ล้มประมูลยกชุดรื้อเฉพาะบางรายการ ปัดใส่เกียร์ว่างสางปัญหา ด้าน “ชินวรณ์” จี้เคลียร์ให้จบภายใน 23 ก.พ.นี้ ก่อนสรุปยอดงบฯ เสนอครม. พร้อมตั้ง ปลัด ศธ. ดู SP2 ทั้งหมด
วันนี้ (18 ก.พ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ โครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 วงเงินประมาณ 5,400 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ซึ่งระบุว่าการดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ ของ สอศ.มีปัญหาในการกำหนดราคากลาง กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของสถานศึกษาหลายแห่งไม่สอดคล้องกับส่วนกลาง และมีการกำหนดสเปคจัดซื้อครุภัณฑ์เป็นชุด ทำให้เกิดการยัดเยียดครุภัณฑ์ให้แก่สถานศึกษาว่า น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศธ.ยังไม่ได้รายงานผลสอบดังกล่าวให้ตนรับทราบ แต่ก่อนหน้านี้ได้ให้แนวทางการปฎิบัติไปแล้วว่าหากส่วนไหนดำเนินการไม่ถูกต้องก็ให้แก้ไข ส่วนไหนถูกต้องก็ให้เร่งเดินหน้าต่อ ส่วนจะยกเลิกการจัดซื้อครุภัณฑ์รายการใดบ้างนั้น ขอให้เป็นหน้าที่ของ น.ส.นริศรา และนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เป็นผู้ตัดสินใจ
“เมื่อตัดสินใจจะเลือกแนวทางไหนก็ต้องรายงานผลและแผนการดำเนินงานให้ผมทราบภายในวันที่ 23 ก.พ.นี้ เนื่องจากต้องสรุปยอดงบประมาณ และรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของ SP2 อย่างไรก็ตามได้ตั้งนายเฉลียว อยู่สีมารักษ์ ปลัด ศธ.เป็นประธานคณะทำงานในการติดตามและความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการ SP2 ของ ศธ.ทั้งหมด ซึ่งยืนยันว่าจะไม่ซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการที่ สอศ.ตั้งขึ้นมาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว” รมว.ศธ.กล่าว
ด้าน นายพรหมสวัสดิ์กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับแจ้งผลการตรวจสอบ แต่รับทราบเบื้องต้นแล้วเห็นว่าผลการตรวจสอบที่ออกมาไม่แตกต่างกับผลการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดที่มี นายนิวัตร นาคะเวช รองปลัด ศธ.เป็นประธาน อย่างไรก็ตาม หลังจาก น.ส.นริศรา ส่งเรื่องให้ตนแล้ว ก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุด เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลผลการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดแรกกับคณะกรรมการ 2 ชุด ที่มีนายนพพร สุวรรณรุจิ ผู้ตรวจราชการ ศธ. และ นายกิจสุวัฒน์ หงส์เจริญ ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นประธาน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และมีครุภัณฑ์รายการใดบ้างราคาแตกต่างกันมากจนรับไม่ได้ หรือรายการใดมีกระบวนการจัดซื้อไม่ถูกต้องก็ต้องทำใหม่ แต่รายการไหนที่ดีอยู่แล้ว ก็ต้องให้ความเป็นธรรมและจัดซื้อจัดจ้างต่อไปตามนโยบายของ รมว.ศธ.
เมื่อถามว่าจะมีการล้มประมูลหรือไม่นั้น นายพรหมสวัสดิ์กล่าวว่า จะเรียกว่าล้มประมูลคงไม่ได้ เพราะ สอศ. จะใช้วิธีพิจารณาแก้ไขเฉพาะบางรายการเท่านั้น ทั้งนี้ งบฯ ครุภัณฑ์ของอาชีวะ 5,330 ล้านบาท สถานศึกษาหลายแห่งได้ดำเนินการประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และสถานศึกษาได้คัดเลือกบริษัทที่ผ่านการประมูลแล้ว และได้รายงานผลมายัง สอศ. แล้วประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท แต่งบฯ ที่ได้สั่งชะลอเพื่อตรวจสอบนั้นมีเพียง 2,000 กว่าล้านบาท ดังนั้น สอศ.จะพิจารณาว่าครุภัณฑ์รายการใดบ้างที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขเฉพาะในส่วนที่มีการสั่งชะลอเท่านั้น
“ส่วนที่บอกว่าผมจะใส่เกียร์ว่างในเรื่องนี้นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องที่ต้องเร่งตัดสินใจ เพราะสถานศึกษาต่างๆ รอใช้อุปกรณ์อยู่และรัฐบาลมีนโยบายที่จะกระจายเม็ดเงิน SP2 ดังนั้นไม่มีสิทธิที่จะใส่เกียร์ว่าง” เลขาฯ กอศ.กล่าว
