สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ.เตรียมเสนอของบ ศธ.ปี’54 จำนวน 53 ล้านบาท ขยายผลโครงการ “ปรับบ้านเป็นโรงเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู” อบรมผู้ปกครอง ฝึกลูกที่พิการซ้ำซ้อน ให้ช่วยเหลือตัวเองได้ พร้อมรับเงินการสนับสนุนครอบครัวละหมื่น
นายธีระ จันทรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เปิดเผยว่า สพฐ.ได้จัดโครงการ “ปรับบ้านเป็นโรงเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู” ขึ้น ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.นี้
โดยมีเป้าหมายเพื่ออบรมให้ความรู้แก่พ่อแม่ ที่มีฐานะยากจน และมีลูกพิการซ้ำซ้อน รู้จักวิธีการดูแลและฝึกให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา และร่างกายพิการ ซึ่งเดิมไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องนอนอยู่เฉยๆ เมื่ออบรมแล้วพ่อแม่ก็จะมีความรู้ในการฝึกลูกให้บริหารกล้ามเนื้อ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อให้กลับมาใช้งานได้ และเด็กช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
โดยขณะนี้มีครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ 5,300 ครอบครัวทั่วประเทศ ผ่านศูนย์การศึกษาพิเศษ 76 ศูนย์ทั่วประเทศ และได้รับงบสนับสนุนจากสำนักงานครอบครัวละ 10,000 บาท ในการจัดทำอุปกรณ์เพื่อพัฒนาเด็กพิการ ซึ่งใช้วัสดุที่ราคาไม่แพงและหาได้ในท้องถิ่น รวมใช้งบทั้งสิ้น 53 ล้านบาท ซึ่งงบนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการศึกษาสำหรับคนพิการของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)
“ก่อนดำเนินโครงการนี้ ได้เคยทดลองนำร่องโครงการมาก่อน เมื่อปี 2550- 2551 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน, เชียงราย, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์ และ นครศรีธรรมราช ซึ่งผลการดำเนินโครงการได้ผลดี พ่อแม่สามารถนำความรู้ที่ได้รับการอบรมไปพัฒนาลูก ทำให้เด็กพิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในระดับหนึ่ง สำนักงานจึงได้เริ่มโครงการนี้อย่างจริงจังในปีนี้ และจะสรุปประเมินผลโครงการในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อเสนอของบปี 2554 จาก ศธ.จำนวน 53 ล้านบาท นำมาขยายผลโครงการให้ได้ทั้งหมด 7,000 ครอบครัว ซึ่งในจำนวนนี้จะมีครอบครัวใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ 1,700 ครอบครัว และจะได้รับงบสนับสนุนครอบครัวละ 10,000 บาท ส่วนครอบครัวที่เคยเข้าร่วมโครงการจะได้รับงบสนับสนุนลดลงจากเดิม” ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ.กล่าว
นายธีระ จันทรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เปิดเผยว่า สพฐ.ได้จัดโครงการ “ปรับบ้านเป็นโรงเรียน เปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู” ขึ้น ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย.นี้
โดยมีเป้าหมายเพื่ออบรมให้ความรู้แก่พ่อแม่ ที่มีฐานะยากจน และมีลูกพิการซ้ำซ้อน รู้จักวิธีการดูแลและฝึกให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น เด็กที่บกพร่องทางสติปัญญา และร่างกายพิการ ซึ่งเดิมไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องนอนอยู่เฉยๆ เมื่ออบรมแล้วพ่อแม่ก็จะมีความรู้ในการฝึกลูกให้บริหารกล้ามเนื้อ เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพกล้ามเนื้อให้กลับมาใช้งานได้ และเด็กช่วยเหลือตัวเองได้ในระดับหนึ่ง
โดยขณะนี้มีครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการ 5,300 ครอบครัวทั่วประเทศ ผ่านศูนย์การศึกษาพิเศษ 76 ศูนย์ทั่วประเทศ และได้รับงบสนับสนุนจากสำนักงานครอบครัวละ 10,000 บาท ในการจัดทำอุปกรณ์เพื่อพัฒนาเด็กพิการ ซึ่งใช้วัสดุที่ราคาไม่แพงและหาได้ในท้องถิ่น รวมใช้งบทั้งสิ้น 53 ล้านบาท ซึ่งงบนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนการศึกษาสำหรับคนพิการของกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)
“ก่อนดำเนินโครงการนี้ ได้เคยทดลองนำร่องโครงการมาก่อน เมื่อปี 2550- 2551 ใน 5 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน, เชียงราย, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์ และ นครศรีธรรมราช ซึ่งผลการดำเนินโครงการได้ผลดี พ่อแม่สามารถนำความรู้ที่ได้รับการอบรมไปพัฒนาลูก ทำให้เด็กพิการสามารถช่วยเหลือตนเองได้ในระดับหนึ่ง สำนักงานจึงได้เริ่มโครงการนี้อย่างจริงจังในปีนี้ และจะสรุปประเมินผลโครงการในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อเสนอของบปี 2554 จาก ศธ.จำนวน 53 ล้านบาท นำมาขยายผลโครงการให้ได้ทั้งหมด 7,000 ครอบครัว ซึ่งในจำนวนนี้จะมีครอบครัวใหม่ที่เข้าร่วมโครงการ 1,700 ครอบครัว และจะได้รับงบสนับสนุนครอบครัวละ 10,000 บาท ส่วนครอบครัวที่เคยเข้าร่วมโครงการจะได้รับงบสนับสนุนลดลงจากเดิม” ผอ.สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สพฐ.กล่าว
