จิตแพทย์ชี้เจาะเลือดสะท้อนภาวะเครียดรุนแรง เตือนอย่ากดดันม็อบเพิ่ม

จิตแพทย์ชี้การเมืองส่งผลประชาชนเครียดเพิ่ม 5% ชี้การเจาะเลือดสะท้อนให้เห็นภาวะเครียดรุนแรง ถึงขั้นยอมพลีชีพ เตือนอย่าทำให้ม็อบหลังชนฝา

นพ.ชาตรี บานชื่น อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังดูแลสภาพจิตใจประชาชนจากเหตุความขัดแย้งทางการเมือง ตลอด 4 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่11-14 มีนาคม 2553 ผ่านสายด่วน 1323 ในเขต กทม.และปริมณฑล พบ ประชาชนประมาณ 5% เครียดทางการเมือง โดยส่วนใหญ่เป็นการโทรมาระบายความทุกข์ใจเป็นห่วงเป็นใยสถานการณ์บ้านเมือง สำหรับความเครียดที่เกิดขึ้นที่โทรเข้ามาระบายขอคำปรึกษา อาทิ การเกิดความขัดแย้งกับสมาชิกในครอบครัว เนื่องจากมีความเห็นต่างกัน แม่ต้องการให้ลูกเข้าร่วมชุมนุมแต่ลูกไม่ต้องการ รวมทั้งเครียดจากการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ฯลฯ ซึ่งกรมสุขภาพจิตคาดว่าน่าจะมีจำนวนผู้ต้องการขอรับคำปรึกษาเพิ่มมากขึ้น

“จากการติดตามความเครียดจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมา มีประชาชนที่ได้รับกระทบทำให้เกิดความเครียดรุนแรง ต้องได้รับการเยียวยา ในช่วงเหตุการณ์เดือนตุลาคม 2551 มีผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมร้อยละ 2 และ เดือนเมษายน 2552 มีผู้ได้รับผลกระทบร้อยละ 1 ส่วนภาพรวมความเครียดของคนไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 60 ซึ่งหากปล่อยให้เกิดความเครียดขึ้นต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดความก้าวร้าว รุนแรง ซึ่งความเครียดที่เกิดจากการเมือง สามารช่วยเหลือได้ด้วยการให้ความรู้ หรือ Politic RQ คือการรับฟังและสร้างความอดทน อดกลั้น ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ยอมรับในตัวผู้อื่น ก็จะสามารถแก้ปัญหาและลดความเครียดลงได้” นพ.ชาตรีกล่าว

ด้าน นพ.สุจริต สุวรรณชีพ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการเจาะเลือดของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่ทำให้เห็นได้ว่าระดับความเครียดเพิ่มขึ้นสูง แม้แต่ตัวเองก็ยอมสละได้ ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วงที่จะสร้างความรุนแรง เพราะความเครียด สุดท้ายจะจบด้วยการอาละวาดทำร้ายตัวเอง หรือทำร้ายผู้อื่น โดยเฉพาะพฤติกรรมที่มีการเจาะเลือดบริเวณคอ ถือว่าเป็นเรื่องอันตรายมาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงออกว่าคนผู้นั้นเกิดความเครียดสูง

“ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีความเครียดสูง การนำเสนอข่าวจำเป็นต้องมีความเป็นกลาง ทุกคำพูดต้องมีความระมัดระวัง หากผลักให้ผู้ชุมนุมอยู่ในภาวะหลังชนฝา หรือเลือดเข้าตา ก็จะนำไปสู่ความรุนแรงซึ่งเป็นอันตรายมาก ซึ่งการกระทำในช่วงที่มีความเครียดอาจเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ จำเป็นต้องแก้ไขด้วยเหตุด้วยผล” นพ.สุจริต กล่าว