xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” สั่งลุยปฏิรูปการศึกษาฯ รอบ 2 เร่งทำตัวชี้วัดให้ชัด หวั่นขับเคลื่อนผิดทาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“มาร์ค” ปักธงปฏิรูปการศึกษาฯ รอบ 2 เผยลืมความผิดพลาดในอดีต พร้อมเดินหน้าให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่จับต้องได้ เป็นรูปธรรม เล็งตั้ง “สสส.ทางการศึกษา” องค์กรอิสระหนุนปฏิรูปทุกภาคส่วน สั่งเร่งจัดทำตัวชี้วัดทุกเรื่องให้ชัดเจน กันเดินหลงทาง


วันนี้ (6 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิด “การประชุมสมัชชาขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่ 2” พร้อมทั้งกล่าวในการบรรยายพิเศษ ว่า ถือเป็นวันสำคัญสำหรับสังคมไทย เพราะการพัฒนาประเทศขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนเป็นสำคัญ โดย 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2542 ที่มีกฎหมายการศึกษาแห่งชาติ เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการศึกษาฯ รอบแรก ได้ผ่านหลายเหตุการณ์ เก็บหลายบทเรียนทั้งที่สำเร็จ ก้าวหน้า และปัญหาข้อจำกัดในหลายเรื่องด้านการศึกษา แต่สิ่งหนึ่งที่มั่นใจมาโดยตลอด คือสังคมได้ให้ความสำคัญกับประเด็นอนาคตของลูกหลานที่จะร่วมกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จ

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า ทุกฝ่ายต่างยอมรับแล้่วว่าการศึกษาไม่ใช่เพียงแค่การเรียนรู้อยู่ในห้องเรียน แต่ต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีวิตทั้งในและนอกระบบ และตามอัธยาศัย ที่ต้องการให้เด็กไทยเก่ง ดี และมีความสุข เข้าใจความสำคัญในวิชาชีพครู เข้าใจระบบการประเมิน มีการนำเทคโนโลยี สารสนเทศเข้ามาสนับสนุนด้านการศึกษา ที่ต้องเข้าใจร่วมกันในการเดินสู่เป้าหมายในการปฏิรูปการศึกษาฯ รอบ 2 ทั้งนี้ในช่วงการปฏิรูปรอบแรก ในความพยายามเดินหน้า ก็พบกับความจริงว่าหลายครั้งเดินไปได้ไม่ถึงปลายทาง 10 ปีแรกต้องสูญเสียกำลังในบางเรื่อง เช่น เรื่องของการปรับโครงสร้างองค์กรด้านการศึกษา แม้หลายเรื่องก้าวหน้าในแง่ตัวชี้วัด เช่น การขยายโอกาศการศึกษา การมีระบบประเมินจากภายนอก แต่ก็ยังมองเห็นความอ่อนแอในระบบ เช่น ผลสัมฤทธิ์ของเด็กที่วัดจากคะแนนการสอบในกลุ่มสาระวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาต่างประเทศ ที่ยังเดินหน้าได้ไม่สำเร็จ

“ในการปฏิรูปครั้งนี้เราไม่มีเวลาที่ต้องสูญเสียเพิ่มเติมจากความผิดพลาดในอดีต ไม่มีเวลาเถียงกันถึงปัญหา ที่เกิดขึ้นแต่หัวใจสำคัญคือ ทำอย่างไรให้หลักการที่ดีและสามารถเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ มีการวัดผล จับต้องได้ เป็นประโยชน์ได้จริง เสริมสร้างความเข้มแข็งพลเมือง อย่างไรก็ตามหลังจากรัฐบาลเข้ามาก็ได้ผลักดันงานในหลายเรื่องให้เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายโอกาสทางการศึกษา โครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ การขยายโอกาสกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) การขยายห้องเรียนวิทยาศาสตร์เพื่อคุณภาพการเรียนการสอน และพัฒนาการเรียนรู้ผ่านสื่อในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ระบบการศึกษาเองต้องสามารถตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจได้ด้วย ไม่ใช่เด็กจบมาไม่มีงานทำ เพราะการผลิตบุคคลากรได้ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดงาน ซึ่งเรื่องนี้ต้องผลักดันกันอย่างต่อเนื่อง” นายกฯ กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า สำหรับเป้าหมายของการปฏิรูปการศึกษาฯ รอบนี้เน้นให้คนไทยได้เรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ภายใต้แนวทาง 4 ใหม่ คือ 1.การพัฒนาคุณภาพคนไทยยุคใหม่ 2.การพัฒนาครูยุคใหม่ 3. การพัฒนาสถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ยุคใหม่ 4.การพัฒนาบริหารจัดการแบบใหม่ ที่ต้องมุ่งกระจายอำนาจ ให้ความเป็นอิสระ ควบคู่ธรรมาภิบาล นอกจากนี้จะมีการตั้ง สสส.ทางการศึกษา ขึ้นมาโดยเป็นหน่วยงานอิสระที่รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอย่างแน่นอนและนำไปใช้อุดหนุน พร้อมทั้งขับเคลื่อนการดำเนินการด้านปฏิรูปการศึกษาในทุกภาคส่วนของประเทศ อีกทั้งในครั้งนี้ต้องมีการกำหนดตัวชี้วัดอย่างชัดเจน และกำหนดเป้าหมายว่าการขับเคลื่อนเดินมาถูกทางหรือไม่ เพื่อมุ่งสู้ความสำเร็จจริงๆ เช่น ตัวบ่งชี้สำหรับผู้เรียนที่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุึ่่มสาระหลัก เพราะที่ผ่าน มาเด็กสอบผ่านเกินครึ่งเพียงแค่วิชาภาษาไทย คือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 หากยังเป้นเช่นนี้ต่อไปการปฏิรูปก็ต้องถือว่าล้มเหลว และในช่วงระยะเวลาของการปฏิรูปการศึกษาฯ รอบ 2 ต้องยืนยันว่าต้องผ่านทุกวิชา โดยได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 55 เป็นต้น

“หากพูดถึงการปฏิรูปก็ต้องมีจุดสิ้นสุด หากไม่มีจุดสิ้นสุดก็จะถือว่าล้มเหลว เรามีเวลาปฏิรูปครั้งนี้อีก 10 ปีข้างหน้า ก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน อะไรที่เป็นอุปสรรคก็ต้องช่วยกันแก้ไข และต้องทำเพื่อลูกหลานของเราอย่างเต็มร้อย หากการปฏิรูปต้องกระทบกระเทือนต่ออำนาจของตัวเองบ้างก็ต้องสละ ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสในการมาปฏิรูปรอบ 3 รอบ 4 หากทำรอบ 2 ไม่ได้ก็จะไม่มีใครเชื่อ ทุกวันนี้โลกไม่หยุดรอความท้าทายที่เกิดขึ้นทั้งปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ล้วนบอกว่าสังคมไทย คนไทย ต้องมีขีดคามสามารถด้านการเรียนรู้ที่ดีขึ้นด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น