ศตส.กทม.นำภาคีเครือข่ายร่วม 3 พันคนตอกย้ำเจตนารมณ์คนกรุงเทพฯ ไม่เสพยา พร้อมมุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติด ค้นหา เฝ้าระวัง และติดตามผู้เสพเข้ารับการบำบัดให้ได้ 50,000 คนในปี 2553 ขณะที่ตำรวจ-ทหารเข้มมาตรการปราบปรามเตรียมรุกชุมชนเป้าหมายจับกุมผู้ค้าให้หมดไป
วันนี้ (18 ก.พ.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “รวมพลคนกรุงเทพฯ ไม่เสพยา” (Bangkok Clear) ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) จัดขึ้นเพื่อผนึกกำลังทุกภาคส่วนประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมกันมุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเป็นพลังของแผ่นดินในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของชาติ โดยมีคณะผู้บริหารกทม. ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดระดับเขต (ศตส.เขต) 50 เขต กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองทัพภาคที่ 1 นักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สภาเยาวชน กลุ่มชุมชน ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ กทม. ประมาณ 3,000 คน ร่วมงาน ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ศตส.กทม.ได้เดินหน้าปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กทม.ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์เน้นพื้นที่แบบบูรณาการ ซึ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรภาคีเครือข่ายในรูปแบบของการสนับสนุนการประสานการปฏิบัติงาน การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อหยุดยั้งและลดระดับการขยายตัวของปัญหายาเสพติด มิให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความสงบสุข และความปลอดภัยของประชาชน โดยใช้การปฏิบัติงานของ ศตส.กทม. และ ศตส.เขต 50 เขต เป็นกลไกในการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาสังคมในการป้องกันยาเสพติด การจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ ซึ่งเน้นขจัดปัจจัยลบและปัจจัยเสี่ยง ป้องกันเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และเสริมสร้างปัจจัยบวก เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษา ครอบครัว สถานประกอบการ โรงงาน ตลอดจนการปราบปรามยาเสพติดและลดความเดือดร้อนของประชาชน บำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดด้วยการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัด และติดตาม ช่วยเหลือ ฟื้นฟูอย่างครบวงจร
ด้าน พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจมานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า เป็นพื้นที่พักพิงและมีการแพร่กระจายของยาเสพติดสูงถึงร้อยละ 50-60 ของพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องประสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกทม. ในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดนสู่พื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 846 ชุมชนเป้าหมาย ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติด เพื่อลดระดับการแพร่กระจายโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 80,000-100,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ทำให้ค้นหาและช่วยเหลือเพื่อเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูทำได้ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ศตส.กทม.ตั้งเป้าในปี 2553 จะเร่งค้นหาผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดและฟื้นฟูให้ได้ 50,000 คน ในพื้นที่เป้าหมาย 10 เขต 587 ชุมชนอย่างเข้มข้น ประกอบด้วย เขตคลองเตย ดินแดง บางแค ห้วยขวาง วังทองหลาง หลักสี่ บางคอแหลม ราชเทวี บางซื่อ และธนบุรี นอกจากนี้จะกวดขันและเฝ้าระวังทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลงอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (18 ก.พ.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงาน “รวมพลคนกรุงเทพฯ ไม่เสพยา” (Bangkok Clear) ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดกรุงเทพมหานคร (ศตส.กทม.) จัดขึ้นเพื่อผนึกกำลังทุกภาคส่วนประกาศเจตนารมณ์ในการร่วมกันมุ่งมั่นแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเป็นพลังของแผ่นดินในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของชาติ โดยมีคณะผู้บริหารกทม. ศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดระดับเขต (ศตส.เขต) 50 เขต กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองทัพภาคที่ 1 นักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร สภาเยาวชน กลุ่มชุมชน ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ กทม. ประมาณ 3,000 คน ร่วมงาน ณ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ศตส.กทม.ได้เดินหน้าปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด กทม.ภายใต้ยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกันระยะที่ 2 โดยใช้กลยุทธ์เน้นพื้นที่แบบบูรณาการ ซึ่งเน้นการเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรภาคีเครือข่ายในรูปแบบของการสนับสนุนการประสานการปฏิบัติงาน การเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ให้ดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อหยุดยั้งและลดระดับการขยายตัวของปัญหายาเสพติด มิให้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต ความสงบสุข และความปลอดภัยของประชาชน โดยใช้การปฏิบัติงานของ ศตส.กทม. และ ศตส.เขต 50 เขต เป็นกลไกในการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสกัดกั้นการนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนและประชาสังคมในการป้องกันยาเสพติด การจัดระเบียบสังคมแบบบูรณาการ ซึ่งเน้นขจัดปัจจัยลบและปัจจัยเสี่ยง ป้องกันเยาวชนกลุ่มเสี่ยง และเสริมสร้างปัจจัยบวก เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานศึกษา ครอบครัว สถานประกอบการ โรงงาน ตลอดจนการปราบปรามยาเสพติดและลดความเดือดร้อนของประชาชน บำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดด้วยการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัด และติดตาม ช่วยเหลือ ฟื้นฟูอย่างครบวงจร
ด้าน พล.ต.ท.อดิเทพ ปัญจมานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ว่า เป็นพื้นที่พักพิงและมีการแพร่กระจายของยาเสพติดสูงถึงร้อยละ 50-60 ของพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องประสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกทม. ในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดจากชายแดนสู่พื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 846 ชุมชนเป้าหมาย ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติด เพื่อลดระดับการแพร่กระจายโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ นายประยงค์ ปรียาจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพฯ มีผู้เสพยาเสพติดประมาณ 80,000-100,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ทำให้ค้นหาและช่วยเหลือเพื่อเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูทำได้ยากลำบาก อย่างไรก็ตาม ศตส.กทม.ตั้งเป้าในปี 2553 จะเร่งค้นหาผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดและฟื้นฟูให้ได้ 50,000 คน ในพื้นที่เป้าหมาย 10 เขต 587 ชุมชนอย่างเข้มข้น ประกอบด้วย เขตคลองเตย ดินแดง บางแค ห้วยขวาง วังทองหลาง หลักสี่ บางคอแหลม ราชเทวี บางซื่อ และธนบุรี นอกจากนี้จะกวดขันและเฝ้าระวังทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปัญหายาเสพติดลดลงอย่างต่อเนื่อง
