“จุรินทร์” ยกเหยื่อป้าเช็งเป็นกรณีศึกษา อย่าหลงเชื่อโฆษณาเกินจริง ชี้มีอันตรายถึงชีวิต

รมว.จุรินทร์ ยกกรณีชายตาบอดหลังใช้น้ำเจียระไนเพชรป้าเช็ง หยอดตา เป็นอุทาหรณ์ การหลงเชื่อโฆษณาเกินจริง แพทย์เผยอีก 6 สัปดาห์ใส่ตาเทียม แนะประชาชนรายอื่นที่ใช้ผลิตภัณฑ์ป้าเช็ง หากมีอาการผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ใกล้บ้านด่วน

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ พญ.วารุณี จินารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี เยี่ยมให้กำลังใจนายสมชาย เถื่อนศรี อายุ 48 ปี ที่มีปัญหาตาข้างซ้ายบอดจากการอักเสบติดเชื้อหลังใช้ยาหยอดตาของป้าเช็ง ซึ่งได้เข้าพักที่หอผู้ป่วยจักษุชาย อาคารสิรินธร ชั้น 4 รพ.ราชวิถี เพื่อเตรียมเข้ารับการผ่าตัดควักลูกตาที่บอดออก

นายจุรินทร์กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ป่วยรายนี้ได้รับคำยืนยันว่าได้ซื้อยาหยอดตาจากศูนย์เคเบิ้ลทีวีของป้าเช็งที่แหลมฉบัง จ.ชลบุรี เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ของศูนย์เคเบิลทีวีแนะนำว่าให้หยอดตาด้วยตัวยานี้เพียงอย่างเดียว ห้ามกินยาอื่นควบคู่ จะสามารถรักษาตาที่เป็นต้อเนื้อให้หายได้ โดยผู้ป่วยหลงเชื่อ ปฏิบัติตามคำแนะนำ จนทำให้ตาอักเสบและบอดในที่สุด กรณีนี้สอดคล้องกับที่กระทรวงสาธารณสุข และ อย.ได้แถลงข่าวเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อน้ำเจียรนัยเพชร และน้ำมหาบำบัดที่โฆษณาในเคเบิ้ลทีวีของป้าเช็ง เนื่องจากผลการตรวจสอบพบว่า ไม่มีคุณสมบัติทางยาใดๆทั้งสิ้น โดยเฉพาะน้ำเจียรนัยเพชรขวดละ 100 บาทที่ใช้หยอดตานั้น มีสภาพเป็นกรดสูงและมีเชื้อโรค ทั้งแบคทีเรียและเชื้อรา อาจทำให้ตาบอดได้

ซึ่งในวันนี้มีกรณีตัวอย่างผู้ป่วยที่อ้างว่าได้ใช้น้ำเจียระไนเพชรของป้าเช็ง และตาบอดจริงๆ ผู้ป่วยได้แจ้งความดำเนินคดีป้าเช็งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ซึ่งจะได้ดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และอาจจะมีข้อหาฉ้อโกงประชาชนเพิ่มเติมด้วย ในส่วนกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งข้อหากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยา และพ.ร.บ.การประกอบโรคศิลปะไปแล้ว

“กรณีนี้ถือว่าเป็นตัวอย่าง เป็นอุทาหรณ์ที่ดีที่สุดกรณีหนึ่งว่า ต่อไปประชาชนผู้บริโภคจะต้องใช้ดุลพินิจ และความระมัดระวังในการตัดสินใจ ไม่หลงเชื่อการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ใดๆ โดยเฉพาะสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวเตือนไป และขอให้เชื่อมั่นในคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ อย่าไปหลงเชื่อจากคำกล่าวอ้างโฆษณา เพราะนอกจากจะเสียเงินแล้ว ในบางกรณีอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือต้องเสียอวัยวะอย่างเช่นผู้ป่วยรายนี้” นายจุรินทร์กล่าว

ด้าน นายสมชาย เถื่อนศรี เหยื่อยาหยอดตาป้าเช็ง กล่าวว่า ช่วงแรกดวงตาซ้ายมีอาการของต้อเนื้อและมีบาดแผล มีคนแนะนำให้ไปซื้อน้ำหยอดตาของป้าเช็ง โดยอ้างว่าสรรพคุณรักษาทุกโรค จึงหลงเชื่อและไปซื้อน้ำยาเจียระไนเพชรขวดละ 100 บาท จำนวน 7 ขวด มาใช้ 2 เดือน ตอนแรกก็มีอาการแสบแต่คิดว่า จะทำให้ต้อเนื้อหาย ต่อมาก็บวมและอักเสบรุนแรงจนตาเริ่มมองไม่เห็น เรื่องนี้ไม่อยากโทษใคร เพราะเป็นความหลงเชื่อของตน แต่อยากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเช่นเดียวกับตน เพราะอาจต้องเสียดวงตาอย่างถาวร

นพ.พงศ์ศักดิ์ ปัจฉิมกุล หัวหน้ากลุ่มงานจักษุแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า จากการตรวจดวงตาของผู้ป่วย พบว่า ลักษณะภายนอกของดวงตาเนื้อตาดำปูดออกมาข้างนอก แก้วตาทะลุ ไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อ โดยในวันพรุ่งนี้ (17 ก.พ.) จะทำการผ่าตัด จากนั้นรอ 1 สัปดาห์ให้บาดแผลหายเป็นปกติ และอีก 6 สัปดาห์จึงจะใส่ตาเทียม