ไทยตั้งศูนย์ปฏิบัติการมรดกโลก กระตุ้นความเข้าใจปชช.

วธ.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการกก.มรดกโลกฝ่ายไทย หวังทำความเข้าใจปชช.เกี่ยวกับมรดกโลก คาดจัดนิทรรศการ-ค่ายเยาวชนแพร่ข้อมูลหน้าที่ตัวแทนไทยในเวทีโลก คาดเปิดให้บริการได้ภายใน ก.พ.นี้

วันนี้(2 ก.พ.) นางโสมสุดา ลียะวณิช รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะคณะกรรมการมรดกโลก กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย ว่า นายธีระ สลักเพชร รมว.วธ. ได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยมี ตนเป็นประธาน และมีนายสหวัฒน์ แน่นหนา รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นรองประธาน พร้อมกันนี้มีตัวแทนจากหน่วยงานของวธ. และตัวแทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งได้ทำการจัดประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งแรก มีข้อสรุปเกี่ยวกับสถานที่ในการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทยขึ้น ที่บริเวณชั้น 10 อาคารธนาลงกรณ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ วธ. โดยศูนย์ดังกล่าวจะมีหน้าที่หลักในการ ประสานข้อมูล ให้กับคณะกรรมการมรดกโลกของไทย และรวบรวม ศึกษา วิจัย ข้อมูลและเอกสาร เกี่ยวกับมรดกโลกทั้งหมดแก่ประชาชน คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

“การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวเนื่องจาก วธ.ต้องการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลเรื่องมรดกโลก ทั้งมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ โดยจะแบ่งสัดส่วนเป็นการให้ข้อมูลมรดกโลกของทั่วโลก ร้อยละ 75 และข้อมูลมรดกโลกของไทย ร้อยละ 25 โดยกิจกรรมที่จะมีขึ้น ได้แก่ การจัดนิทรรศการถาวร และเคลื่อนที่ไปตามหน่วยงานหรือสถานศึกษาที่สนใจ รวมถึงอาจมีการจัดค่ายเยาวชน ตลอดจนจัดคณะทำงานลงพื้นที่ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก อาทิ ภูพระบาท จ.อุดรธานี ปราสาทหินพิมาย จ.นครราชสีมา ปราสาทหินพนมรุ้ง-เมืองต่ำ จ.บุรีรัมย์ ผืนป่าแก่งกระจาน และหมู่เกาะทะเลอันดามัน เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อทำความเข้าใจร่วมกับท้องถิ่นถึงความสำคัญและประโยชน์ที่จะได้รับในการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก” นางโสมสุดา กล่าว

นางโสมสุดา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าการเปิดเว็บไซต์ที่จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับมรดกโลกทั้งหมดเพื่อให้สอดรับกับการทำงานของศูนย์ปฏิบัติการฯ รวมถึงได้หารือถึงการเตรียมความพร้อมของคณะกรรมการมรดกโลกฝ่ายไทย ในการเดินทางไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการมรดกโลกชุดใหญ่ขององค์การศึกษา วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ซึ่งจะมีขึ้นทั้งหมด 4 ครั้งในปี 2553 ด้วย