xs
xsm
sm
md
lg

“ธีรพัฒน์” ลั่นยุติบทบาท พร้อมส่งข้อมูลโกง SP2 อาชีวะถึง ป.ป.ช.สอบหาความจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ธีรพัฒน์” หอบหลักฐานทุจริต SP2 อาชีวะ ส่งถึงมือ ป.ป.ช. ประกาศยุติบทบาท โยนเป็นอำนาจ ป.ป.ช.ทำความจริงให้ปรากฏ อ้ำอึ้งส่งข้อมูลให้ “ชินวรณ์” รับเชื่อใจ ป.ป.ช.มากกว่า รมว.ศธ.อาจไม่สะดวก ขณะที่ “เสมา 1” ยันเป็นสิทธิยื่น ป.ป.ช.สอบ เผยยังไม่พบกระบวนการใดบกพร่อง ด้าน “นริศรา” ร่อนหนังสือแจงวิทยาลัยทั่วประเทศ

วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และอุปนายกสมาพันธ์สมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย ได้เข้ายื่นเอกสาร ข้อมูลเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ ภายใต้โครงการไทยเข้มแข็ง หรือ SP2 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โดยมี นายนิยม ชนะชัย เจ้าพนักงานปราบปรามทุจริตเชี่ยวชาญ สำนักการข่าวและประมวลผล ป.ป.ช. ลงมารับหนังสือดังกล่าว

นายธีรพัฒน์กล่าวว่า เอกสารที่มายื่นในวันนี้เป็นเอกสารชุดเดิม และเอกสารใหม่ที่เพิ่งได้มา โดยยังไม่ได้เปิดเผยที่ไหนมาก่อน ซึ่งเป็นเอกสารที่ผู้มีอำนาจได้สั่งตรงไปยังวิทยาลัยหลายแห่งเพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ในหลายกลุ่มพัสดุ ทั้งนี้ เอกสารทั้งหมดตนก็ไม่ทราบว่าอันไหนจริง ปลอม แต่ก็ได้รวบรวมเอกสารที่มีผู้หวังดีจากสถานศึกษาส่งมาให้ นำมามอบให้แก่ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ภาระกิจของตนได้สิ้นสุดลงแล้วเนื่องจากอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช.ไปดำเนินการทำความจริงให้ปรากฏ

“ป.ป.ช.เป็นหน่วยงานที่เชื่อถือได้ คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช.เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีอำนาจโดยตรงในการตรวจสอบ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นร้อนที่มีมากว่า 1 เดือนแล้ว ซึ่งทาง ป.ป.ช.ก็จะได้มีวิธีการตรวจสอบต่อไป ในส่วนเรื่องลายเซ็นในเอกสารหากเป็นลายเซ็นจริงก็สามารถพิสูจน์ได้อยู่แล้วโดยวิธีการของป.ป.ช. ซึ่งตอนนี้หลักฐานอาจจะยังไม่เพียงพอ แต่คงเป็นส่วนหนึ่งที่ให้ ป.ป.ช.ได้สืบค้นต่อ โดยเอกสารที่นำมาในวันนี้เชื่อว่ามีถึง 50% ที่เป็นข้อมูลของจริง มีประมาณ 30 หน้า โดยจะเอาเฉพาะเรื่องสำคัญๆ ทั้งนี้ก็สามารถส่งเอกสารเพิ่มเติมได้” นายธีรพัฒน์กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสหนังสือปลอมที่กำลังระบาดทำให้ต้องกลับมาดูเอกสารหลักฐานใหม่หรือไม่นั้น นายธีรพัฒน์กล่าวว่า ตอนนี้ตนก็ไม่รู้ แต่คนที่โดนพาดพิงถึงก็บอกว่าเป็นหนังสือปลอม จึงต้องนำเรื่องมาสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช. ในส่วนข้อมูลที่ได้มาก็มั่นใจว่าเป็นเรื่องจริงแน่นอน ไม่ได้เป็นการใส่ร้ายใคร และเอกสารเรื่องร้องเรียนทั้งหมดก็ไม่ได้บอกว่าผู้ใดผิด เพียงแต่บอกว่ามีพฤติกรรมการทำสเปก ราคา การกระจายพัสดุ ไม่ทั่วถึง อย่างไรก็ตามเป็นสิ่งที่สหภาพครู และสมาพันธ์เครือข่ายครูอาชีวะ ซึ่งได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา มีมติให้ตนมายื่นต่อ ป.ป.ช. และก็ยินดีจะอยู่เบื้องหลังโดยไม่ทอดทิ้งตน

เมื่อถามว่าได้ส่งข้อมูล หลักฐานต่างๆ ให้แก่นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศธ.หรือไม่นั้น นายธีรพัฒน์กล่าวว่า ตนบอกกับท่านรัฐมนตรีไปแล้วว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ในส่วนของข้อมูลที่จะมอบให้กับท่านรัฐมนตรีนั้นบางครั้งท่านอาจมีข้อจำกัด ทำให้ไม่สะดวก จึงได้นำข้อมูลต่างๆ มอบให้ ป.ป.ช.ซึ่งหน่วยงานที่ไม่มีส่วนได้เสียดำเนินการในเรื่องนี้จะดีที่สุด คนที่ถูกพาดพิง ถูกกล่าวหา ก็จะได้มีโอกาสเคลียร์ตัวเอง

“ผมมั่นใจท่านรัฐมนตรีในระดับหนึ่ง แต่องค์กรสูงสุดในการปราบทุจริตต้องเป็น ป.ป.ช.เท่านั้น แทนที่จะทำงานหลายครั้งก็ทำครั้งเดียว ซึ่งท่านก็บอกแล้วว่าหากมีข้อมูลก็สามารถยื่น ป.ป.ช.ได้ทันที โดย ป.ป.ช.อาจมอบอำนาจให้ท่านไปดำเนินการเรื่องนี้ต่อก็ได้” นายธีรพัฒน์กล่าว

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะยื่นเรื่องถึง ป.ป.ช. ที่เป็นองค์กรอิสระในการเข้ามาช่วยดำเนินการตรวจสอบ ต่อจากนี้ก็แล้วแต่กระบวนการของทาง ป.ป.ช.ว่าจะรับหรือไม่รับเรื่องนี้ ซึ่งตนและ รมช.ศธ.ที่ดูแลเรื่องนี้ก็ยินดีที่จะรับไปตรวจสอบให้มีความมีความโปร่งใส ทั้งนี้ตนได้มอบนโยบายไปแล้วว่าหากส่วนไหนถูกต้องก็ให้ดำเนินการต่อ แต่ส่วนไหนที่ยังไม่ชัดเจนก็ต้องทำให้ชัดเจนก่อน

“อยากให้ครูอาชีวะมั่นใจสำหรับข่าวที่เกิดขึ้นนั้นผมไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่พบกระบวนการใดที่มีข้อบกพร่อง ซึ่งอาจมีปัญหาบ้างในเชิงปฏิบัติ และหากว่าพบเจอปัญหาก็ได้มอบให้รัฐมนตรีช่วยรายงานให้ผมทราบทันที ว่าจุดอ่อนที่เกิดขึ้นอยู่ในส่วนใด” รมว.ศธ.กล่าว

น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนได้พูดคุยกับนายพรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) แล้วว่าหากนายธีรพัฒน์มีข้อมูลใดๆ ก็อยากให้ส่งมาที่คณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างที่ตั้งขึ้นมา 2 ชุด หรือมอบให้แก่ รมว.ศธ.ด้วย ทั้งนี้ เอกสารทุกอย่างก็มีความผิดปกติ ซึ่งผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในเอกสารก็แจ้งความไว้แล้ว สิ่งที่พบคือเรื่องของตราครุฑ วันที่ เนื้อหา และลายเซ็นตัวบุคคลซึ่งเจ้าตัวไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน อย่างไรก็ตามตนได้ทำหนังสือแจ้งถึง 415 วิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศแล้วว่าหนังสือที่ออกไปก่อนหน้านี้ ตนไม่ได้ลงนาม พร้อมทั้งระบุด้วยว่าหากวิทยาลัยใดพบข้อมูลที่เป็นเรื่องทุจริตก็ให้ส่งตรงมาที่ตนได้ทันที

นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คน และหน่วยงานใน ศธ.เร่งกำหนดโครงการที่จะดำเนินการในแผน SP3 เพื่อไม่ให้ล่าช้าเหมือนโครงการ SP2
กำลังโหลดความคิดเห็น