เรื่องโดย กองทรัพย์ ชาตินาเสียว
มองเด็กสายช่างอย่างไรในสายตาคุณ?
เป็นคำถามในบอร์ดของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ไม่ต้องเดาว่าความคิดเห็นที่ตอบกลับจะเป็นไปในทิศใด เสียดสี ทิ่มแทง ก่นด่าสารพัด นั่นเพราะส่วนหนึ่งที่ว่า ข่าวการเป็นอริกันระหว่างโรงเรียนช่างกลชื่อดัง กลางกรุง ได้สร้างความอิดหนาระอาใจให้กับคนในสังคมไม่น้อย พลอยส่งให้ภาพลักษณ์ของเหล่า "เด็กช่าง" ทั้งหลายติดลบไปด้วย
ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีเด็กช่างอีกมากที่ไม่ได้เป็นตัวอย่างที่เลว กลับกันเขาเหล่านั้นกลับตั้งใจศึกษาและฝึกทักษะ เป็นตัวแทนนักเรียนไทยเข้าร่วมแข่งขันรายการต่างๆ สร้างชื่อให้กับประเทศ แต่เรื่องกลับหายไปในกลีบเมฆ
ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากจะพาคุณไปรู้จักอีกมุมหนึ่งของเด็กสายช่างลูกข้าวเหนียว จากวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคาม ซึ่งตอนนี้กำลังเรียนต่อเนื่องในระดับปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน(มทร.อีสาน) “ประวิทย์ บุญหล้า” หรือ วิทย์ ที่เพิ่งจะกลับมาเรียนต่ออีกครั้งในชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ หลังหยุดพักการเรียนไปเกือบ 2 ปีเพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานโอลิมปิก (World Skills Competition) ในฐานะตัวแทนประเทศไทย และเขาก็คว้าเหรียญทองแดงกลับบ้านได้สำเร็จ
ประวิทย์ บอกว่า เวลาที่เสียไปสำหรับเขามันคุ้มค่า แม้ว่าอาจจะทำให้เรียนจบช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่สิ่งที่ได้มาคือ การได้เป็นตัวแทนของประเทศ ได้สร้างชื่อให้กับเด็กช่างในอีกมิติหนึ่งให้สังคมได้เห็น สำหรับอุปสรรคด้านการเรียนนั้นไม่ใช่ปัญหา แต่สิ่งล่อตาล่อใจระหว่างทางต่างหากที่จะขัดขวางความตั้งใจของแต่ละคนให้ไขว้เขว
“การเรียนระบบของอาชีวะจะเรียนๆ หยุดๆ คือมีเวลาพักยาว ใครจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เวลาว่างนั้นอย่างไร ผมว่าอยู่ที่มุมมองของคน สำหรับเรื่องเด็กตีกันโรงเรียนธรรมดาก็มี แต่ภาพของเด็กช่างค่อนข้างจะหัวแข็ง บางกลุ่มแสดงออกไม่ถูกทาง แต่ทุกที่ก็มีทั้งคนดีและไม่ดี ส่วนที่ดีก็มีให้เห็น กลุ่มที่เขาทำกิจกรรมเพื่อสังคมก็มี แต่ก็เข้าใจว่าสังคมมักจับจ้องเฉพาะส่วนไม่ดีเพราะดังกว่า ก็อยากให้มองส่วนดีบ้าง อย่าตัดสินการกระทำบางกลุ่ม” ประวิทย์ ให้ทัศนะ
หนุ่มมหาสารคามรายนี้ บอกว่า สำหรับเขาตอนเรียนช่างเราก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมาก เกเรก็มี ดื่มของมึนเมาก็มาก แต่เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย และยิ่งได้เก็บตัวแข่งขัน เวลาส่วนใหญ่จะอยู่ทุ่มให้กับห้องสมุดเพื่อหาความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์เพิ่มเติม ช่วยอาจารย์ซ่อมดูแลเครื่องปรับอากาศภายในมหาวิทยาลัย และติวหนังสือให้รุ่นน้อง เท่ากับได้เพิ่มพูนทักษะและความรู้ในตัวอีกทางหนึ่ง เมื่ออยากผ่อนคลายก็จะชวนเพื่อนๆ ไปตกปลาเพื่อมาทำอาหาร เมื่อถึงวันหยุดยาวก็จะออกเดินทาง โดยเฉพาะการไปกับค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเขาให้เหตุผลว่า ทุกย่างก้าวของทางที่เดินไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
“การได้เห็นโลกมันก็ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เราก็คิดมากขึ้น เห็นอะไรดี ไม่ดี ก็คิดอยู่ตลอดว่าจะแก้ไขอย่างไรให้ดีขึ้น และนั่นย้ำเตือนเราว่าจะย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ ตอนนี้ก็พยายามเรียนให้ทันเพื่อน ผมคิดว่าโอกาสเราน้อย ยิ่งถ้าเราไม่มีใบรางวัลใดๆ คงทำให้เราหางานยากกว่าม.ดังๆ แต่อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าฝีมือเราก็ไม่แพ้สถาบันดังๆ แน่ เพียงแต่อยากให้รัฐส่งเสริมทุนการศึกษาเด็กที่เรียนสายปฏิบัติการมากกว่านี้หน่อย” ลูกมทร.อีสาน กล่าว
ถึงตรงนี้ ประวิทย์ ทิ้งท้ายถึงน้องๆ ที่กำลังเรียนในสายช่าง และคิดอยากจะเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยว่า อยากให้น้องๆ ตั้งใจและทุ่มเทกับทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา สำหรับเขาโอกาสที่ได้รับครั้งนั้นสร้างความภาคภูมิใจให้ตัวเอง เป็นเกียรติในการรับใช้ประเทศ และมหาวิทยาลัยเป็นที่รู้จัก ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับ “เด็กช่าง” คนหนึ่ง