หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เวลาเดินผ่านตู้เค้กทีไรหัวใจเป็นต้องสั่นไหวทุกที วันนี้ M-Lite ขอเสนอสวรรค์ของคนรักเค้ก กับบุฟเฟต์เค้กสุดคุ้ม คุณภาพเยี่ยม ในราคาสบายกระเป๋าให้คุณได้พิสูจน์
คุณสมลักษณ์ แนบเกษร หรือคุณโจ้ เจ้าของร้านอาหารยุโรป BISTRO 33 เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่า สามีของเธอเปิดร้านอาหารเช่นเดียวกันแต่เป็นร้านสเต๊ก อาหารมื้อหนัก ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนดูแลเรื่องงานจัดเลี้ยง ต่อมาก็ได้มาเจอกับร้านอาหารสไตล์อิตาเลียน Cafe Buongiorno ซึ่งในตอนนั้นหมดสัญญาเช่าร้านพอดี จึงเช่าร้านต่อและปรับปรุงใหม่ในรูปแบบของตนเอง จนกลายเป็น BISTRO 33 ในวันนี้
“BISTRO” หมายถึงลักษณะของอาหารที่กินง่าย อาหารจานเดียวที่มีการผสมผสานรสชาติได้อย่างกลมกลืน อย่างมื้อกลางวันทางร้านจะมีการจัดเซตเมนู ประกอบด้วยออเดิร์ฟที่ให้เลือกระหว่างสลัดกับซุป ต่อมาเป็นจานหลักอย่างพาสตา พิซซาอบใหม่ร้อนๆจากเตาอิฐด้านหน้าร้าน หรือแซนด์วิช เน้นที่กินง่าย สะดวกรวดเร็ว ในราคาที่ไม่สูงมากเพียง 199 บาท หรือจะเลือกเองจากเมนูปกติก็ได้
“ร้านของเรามีบุฟเฟ่ต์เค้ก ด้วยฝีมือเชฟที่มีประสบการณ์การทำขนมจากโรงแรมถึง 5 ปี ส่วนตัวเป็นคนชอบกินขนมอยู่แล้ว ทั้งสามีทั้งลูกสาวก็ชอบ เวลาทานอาหารแล้วก็ติดนิสัยว่าต้องมีขนมกินต่อ ก็เป็นที่มาของร้านนี้ด้วย”
บุฟเฟ่ต์เค้กของที่นี่ บอกได้เลยว่า คุ้มสุดจะคุ้ม โดยมีแบบให้เลือกทั้งหมดกว่า 20 แบบหมุนเวียนให้เลือกตลอดทั้งวัน ซึ่งบางวันอาจไม่ครบทุกแบบขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าที่เข้ามาด้วย ซึ่งบางวันเรียกได้ว่าเป็น “วันถล่มตู้เค้ก” คือวันที่มีกรุ๊ปใหญ่เข้ามาพร้อมใจกันไปรุมอยู่หน้าตู้เค้กจนหมดเลยก็มี
“เวลาเห็นลูกค้ามากินเค้กด้วยกันเยอะๆ เห็นแล้วก็สนุกมาก ยิ่งมาหลายคนก็ยิ่งเลือกได้หลากหลายรส เอามาแบ่งกันชิม ที่ร้านจะเน้นเค้กเป็นชิ้นเล็กอยู่แล้วด้วย เพราะอยากให้ลูกค้าได้กินหลายๆ แบบ ปกติชอบทำขนมอยู่แล้วก็มีเค้กบางชิ้นที่ปรับสูตรเอง อย่างเค้กแครอทจะเป็นเค้กเบาๆ ที่ใช้น้ำมันมะกอก ไม่อ้วน กินแล้วรู้สึกได้ว่าเนื้อเค้กเบา ไม่หวานมันเหมือนเค้กทั่วไป”
สำหรับความนิยมของเค้กแต่ละตัวนั้น คนไทยกับคนต่างชาติจะนิยมไม่เหมือนกัน ซึ่งคนไทยจะชอบช็อกโกแลตมากที่สุด เป็นอันดับต้นๆ ที่เลือก โดยร้านนี้จะมี Mud Cake เป็นเค้กช็อกโกแลตรสเข้มที่ขอย้ำว่าคอช็อกโกแลตห้ามพลาดเด็ดขาด หรือแม้แต่ช็อกโกแลตมูสที่ดูเรียบง่ายแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบไม่แพ้กัน
นอกจากนี้ คุณโจ้ขอการันตีเรื่องวัตถุดิบว่าเยี่ยมและถึง! อย่างช็อกโกแลตจะสั่งจากประเทศเบลเยียมทั้ง Dark, Whiteและ Milk ที่มีความหวานมัน กลมกล่อมกว่า ด้วยความจริงที่ว่าช็อกโกแลตในไทยจะมีรสชาติติดปลายลิ้นเหมือนกลิ่นแป้ง ส่วนชีสจะเป็นครีมชีสจากฟิลาเดลเฟีย จะได้คุณภาพที่ถึงรสถึงชาติกว่า
รวมทั้งผลสตรอเบอรีที่หากสั่งจากต่างประเทศอย่างจากอเมริกา หรือจากนิวซีแลนด์ ก็จะได้สีสัน รสชาติ ความรู้สึก ความกรอบ ความฉ่ำที่ต่างกันไปซึ่งตรงนี้ขึ้นกับเมนูที่ทำว่าต้องการรูปแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกจากนิวซีแลนด์ที่มีความกรอบกว่า เวลากินจะได้รสชาติ ความรู้สึกที่ดีกว่า
ทั้งนี้ ด้วยมุมมองว่า เมนูของหวานเหล่านี้เป็นอาหารตะวันตก ดังนั้น วัตถุดิบหลักๆ จึงควรมาจากแหล่งกำเนิดจริงๆ จะดีที่สุด
“ลูกค้าที่ร้านก็จะมีทั้งชาวไทย ทั้งชาวต่างชาติคละวัยกันไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นมากินกันเป็นกรุ๊ป ถ้าแบ่งก็น่าจะเป็นหญิง 70% และชาย 30% แต่บางทีก็มาเป็นกรุ๊ปใหญ่พอๆ กัน และที่ร้านจะมีห้องจัดเลี้ยงซึ่งต้องจองล่วงหน้า ลูกค้ามักสั่งทำเค้กพิเศษหรือเมนูอาหารพิเศษอื่นๆ ซึ่งเราก็พยายามทำให้ดีที่สุดทั้งเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติ”
สำหรับบรรยากาศในร้านบอกได้เลยว่าโปร่ง โล่ง ชิลสุดๆ ด้วยห้องแอร์กระจกรอบตกแต่งในสไตล์ที่คุณโจ้บอกว่าเหมือนกับแต่งบ้าน แม้แต่ต้นไม้เจ้าของร้านลงทุนไปเลือกซื้อด้วยตัวเอง จนบรรยากาศในร้านร่มเย็นไปด้วยต้นไม้เหมือนเป็นสวนหย่อมในบ้านหลังเล็กๆ ในเมืองใหญ่เลยทีเดียว
อีกทั้งยังมีบริการ WiFi ให้คุณได้ชิมเค้กไปทำงานไป หรือจะมานั่งติวหนังสือกับเพื่อนๆ ก็ไม่ว่ากัน ในเวลาตั้งแต่ 11.00-21.00น. ในราคาเพียง 159+ ไม่รวมเครื่องดื่ม
เจ้าของร้านสาวสวยแนะนำว่า การกินเค้กร่วมกับน้ำชาจะทำให้หายเลี่ยนได้ เนื่องจากในน้ำชามีคุณสมบัติสลายไขมันได้บางส่วนด้วย
ภาพโดย... อดิศร ฉาบสูงเนิน
5 อันดับเค้กยอดฮิตที่ต้องชิม
1. Mud Cake
2. Cherry Mousse Cream
3. Black & White Chocolate Mousse cake
4. Blueberry Cheesecake
5.Lemon Meringue
BISTRO 33
เลขที่ 22 ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา
โทร. 02-260-3033
