เผยไอ้โม่งโทรศัพท์ขู่ “นิวัตร” ปธ.สอบจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ SP2 อาชีวะ จี้หยุดขุดคุ้ยเรื่องราวข้อเท็จจริง ด้านเจ้าตัวไม่สนคำขู่ พร้อมเดินหน้าสอบต่อ คาด 15 ม.ค.นี้ได้ข้อสรุป รับมีบางเรื่องส่งกลิ่นไม่ดี ขณะที่ “อุปนายกสมาคมครูอาชีวะฯ” แฉอีกมี สอศ.พบปัญหาเบิกจ่ายงบจัดงานสัปดาห์ของขวัญเพื่อพ่อ เหตุโดนด่าจัดงานไม่สมราคา 6 ล้าน
รายงานข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า มีกลุ่มบุคคลได้โทรศัพท์ข่มขู่คณะกรรมการตรวจสอบการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ ภายใต้โครงการตามแผนปฏิบัติการไทยเข็มแข็ง (SP2) ปี 2553 ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ที่มี นายนิวัตร นาคะเวช รองปลัด ศธ.เป็นประธาน ซึ่งกลุ่มบุคคลที่ข่มขู่นั้นต้องการให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวยุติการขุดคุ้ยและสอบสวนการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของ สอศ.มูลค่าหลายพันล้านบาท ทั้งนี้ การที่คณะกรรมการตรวจสอบฯ ถูกโทรศัพท์ข่มขู่นั้นไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักใน ศธ.
ขณะที่ นายนิวัตร กล่าวว่า ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ดุสิตแล้วเพื่อเป็นหลักฐานเอาไว้แล้ว ส่วนการดำเนินการสอบสวนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ของ สอศ.นั้นก็ยังต้องเดินหน้าต่อ ซึ่งกำลังเร่งสรุปผลการสอบให้ทันในวันที่ 15 ม.ค.นี้ ใน 2 เรื่องทั้งการจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์ และการกำหนดสเปกครุภัณฑ์ ทั้งนี้ในส่วนของผลการสอบข้อเท็จจริงนั้นในหลายส่วนพบว่าสามารถดำเนินการต่อได้ แต่ก็มีบางเรื่องที่ยังเป็นข้อสงสัย ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นเรื่องใดเพราะเกรงจะมีผลต่อการสอบสวน ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะได้เรียกหลักฐานเข้ามาเพื่อดำเนินการสอบสวนต่อให้เสร็จทันกำหนดเวลา ก่อนนำเสนอต่อ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.ต่อไป
เมื่อถามถึงข้อกังวลว่าผลการสอบจะเข้าข่ายปาหี่หรือไม่นั้น นายนิวัตรกล่าวว่า กรรมการทุกคนที่ตั้งขึ้นมีเกียรติ ศักดิ์ศรี หลายคนเป็นนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิและมีการประชุมทำงานกันอย่างหนักมาโดยตลอด มีการประชุมเกือบทุกวัน และด้วยเกียรติของตนยืนยันได้ว่าผลการสอบข้อเท็จจริงจะออกมาอย่างตรงไปตรงมาให้มากที่สุด และไม่มีการปาหี่อย่างเด็ดขาด
ด้าน นายธีรพัฒน์ คำคูบอน ประธานที่ปรึกษาสหภาพครูแห่งชาติ และอุปนายกสมาคมครูอาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตอนนี้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีปัญหาเรื่องการอนุมัติเบิกจ่ายเงินจ้างบริษัทเอกชนในการจัดงานสัปดาห์ของขวัญเพื่อพ่อ เมื่อวันที่ 8-11 ธ.ค.52 ในราคา 6 ล้านบาท เนื่องจากผู้มีอำนาจไม่มีใครกล้าเซ็นอนุมัติการเบิกจ่าย เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า คุณภาพของงานไม่สมกับราคา ซึ่งหากให้สอศ.จัดเองแค่ 1 แสนบาทก็ยังถือว่าแพง เพราะสินค้าที่นำมาจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นฝีมือนักศึกษา แม้จะอ้างว่าเป็นเงินค่าตอบแทนดารานักร้องที่มาขึ้นเวทีร้องเพลงทุกวันก็ไม่ได้ทำให้สินค้าขายดี
“ปัญหาตอนนี้ก็คือ ถ้ามีการเบิกจ่ายย้อนหลังหากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจเจอคนเซ็นก็ต้องมีความผิดไปด้วย เพราะงานจัดผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลจึงไม่มีผู้บริหารคนใดกล้าเซ็นอนุมัติการเบิกจ่าย” นายธีรพัฒน์กล่าว