สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขพอใจ ปลัด สธ.รับปากผลักดันร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข เข้าสภาสมัยการประชุมหน้า ตั้งคณะกรรมการร่วมพิจารณาร่างกฎหมาย พร้อมเสนอร่าง พ.ร.บ.ของ สธ.ประกบ 18 ม.ค.นี้เตรียมแสดงพลังบุก สธ.ถามความคืบหน้า แย้มเตรียมแผน 2 ล่ารายชื่อ 2 หมื่นเสนอกฎหมาย
วันที่ 12 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นายไพศาล บางชวด นายกสมาคมวิชาชีพสาธารณสุข พร้อมหมออนามัยประมาณ 150 คน กล่าวภายหลังการประชุมการพิจารณาเกี่ยวกับการเสนอร่างพ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุข พ.ศ. ... โดยนายไพศาลกล่าวว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการพิจารณาพ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขร่วมกัน โดยทำหน้าที่พิจารณาเนื้อหาสาระเพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับร่างพ.ร.บ.เดิมที่อาจมีอยู่ รวมทั้งพิจารณาว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร โดยจะเสนอร่าง พ.ร.บ. วิชาชีพการสาธารณสุขของสธ.ประกบกับร่างพ.ร.บ.ที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขเป็นคู่ขนานกัน ส่วนกรอบระยะเวลาการพิจารณาให้เสร็จก่อนการเปิดประชุมสภาในสมัยหน้า
“สมาคมฯ พอใจกับผลการประชุมครั้งนี้ในระดับหนึ่ง โดยนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.รับปากว่าจะนำร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขเข้าสภา แต่อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 18 มกราคม สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขและตัวแทนหมออนามัยทั่วประเทศประมาณ 10,000 คน จะเดินทางมาที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อติดตามผลความคืบหน้าการดำเนินการผลักดัน พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขอีกครั้ง”นายไพศาลกล่าว
นายไพศาลกล่าวด้วยว่า นอกจากนอกนี้ยังเตรียมแผนสำรองในการเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้หากไม่สามารถใช้ช่องทางของกระทรวงสาธารณสุขได้จะดำเนินการเสนอกฎหมายในนามภาคประชาชนด้วยกันล่ารายชื่อ 20,000 รายชื่อ เสนอเข้าสภาโดยขณะนี้รวบร่วมได้แล้วกว่า 10,000 รายชื่อ
ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.กล่าวว่า ยืนยันว่าสธ.ไม่มีเจตนาที่จะขัดขวางร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการ บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขทุกคน หากสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็ยินดีที่จะดำเนินการอยู่แล้ว แต่เนื่องจากนายวิทยา แก้วภราดัย อดีต รมว.สาธารณสุข ลาออกจึงจำเป็นต้องรอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ เข้ารับตำแหน่ง ในระหว่างนี้จะขอให้นำ พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขทำความเข้าใจรายละเอียดสาระสำคัญของกฎหมายก่อนจะผลักดันเข้าสภา
“ผมยินดีที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขเข้าสภาอยู่แล้ว แต่ขอร้องว่าอย่าใช้วิธีอื่น ไม่ใช่มากดดัน อย่าทำเหมือนคนอื่น ตัวอย่างที่ไม่ดีก็มีให้เห็นแล้ว ดังนั้นไม่ควรทำตาม เราเป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำเนินการตามขั้นตอน”นพ.ไพจิตร์กล่าว
