ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรคเผยห่วงอหิวาต์ระบาดหนักในปี 2553 เผยอาหารทะเลเชื้อมากสุดคือหอยแครง ปู ปลา เกิดจากแรงงานต่างด้าวส้วมไม่ดี ไม่มีน้ำสะอาด ถ่ายลงทะเลและนำน้ำทะเลมาลางสัตว์ทะเลที่จับได้ เผยห่วงขยายไปอีสานเหนือที่รับอาหารทะเลไปกิน แนะผู้ว่าฯเจ้าของกิจการลงทุนสร้างส้วมและน้ำสะอาดได้ผลดีระยะยาวก่อน ประเทศลูกค้าพบอาหารทะเลปนเปื้อน
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นห่วงของสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาตกโรค จากสถิติในปี 2549 มีผู้ป่วยเพียง 35 ราย ต่อมาปี 2551 มีผู้ป่วย 248 ราย และในปี 2552 ตั้งแต่ต้นปีถึง 3 ธ.ค.มีผู้แล้วกว่า 212 ราย และคาดการณ์ว่าในปี 2553 จะมีผู้ป่วยหลักพันคน ทั้งนี้เนื่องจากพบว่าพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอหิวาต์ มากที่สุดของไทยได้แก่ จ.ปัตตานีในปี 2552 มีผู้ป่วยกว่า 205 รายจากผู้ป่วยทั้งหมด โดยเชื้อจะปนเปื้อนกับอุจจาระอยู่บริเวณน้ำกร่อย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการทำอาชีพประมง ซึ่งสุขลักษณะด้านส้วมและน้ำสะอาดมักไม่ดี
“เมื่อชาวประมงที่มีเชื้ออหิวาต์ถ่ายลงน้ำทะเล จากนั้นเชื้อก็จะไปเกาะกับสาหร่าย และสัตว์น้ำทะเล โดยพบเชื้อมากสุดคือ หอยแครง รองมาเป็นปู และปลา เมื่อคนทานสัตว์น้ำเหล่านี้โดยไม่สุก ทำให้ได้รับเชื้อดังกล่าวไปด้วย ในส่วนของจังหวัดที่ไม่มีการทำอาชีพประมงก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งในปีหน้าคาดว่าภาคอีสานและเหนือจะได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากการส่งอาหารทะเลที่ปนเปื้อนไปทาน การย้ายของแรงงานต่างด้าว รวมถึงกระแสน้ำในอ่าวไทย เพราะเมื่อส้วมไม่ถูกลักษณะ อุจจาระก็ถูกทิ้งลงทะเล แล้วเมื่อจับสัตว์ทะเลก็นำน้ำทะเลมาล้าง ซึ่งอาจเกิดการปนเปื้อนได้”นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวว่า นอกจากนี้ผู้รับผิดชอบในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการทำแพปลา อาทิ จ.สมุทรสาคร ปัตตานี ระยอง ที่มีแรงงานต่างด้าวควรจัดส้วมและน้ำสะอาดเพื่อให้ถูกสุขลักษณะ เพราะเชื้ออหิวาต์สามารถป้องกันได้ด้วยสุขลักษณะ ทั้งนี้หากทำส้วมก็ไม่ควรเก็บเงินค่าใช้บริการ เพราะแรงงานต่างด้าวจะไม่เข้าสุขาที่เสียค่าบริการ นอกจากนี้เชื้ออหิวาต์สามารถตายได้โดยความร้อน โดยทำให้อาหารสุดอย่างน้อย 2 นาที แต่อาหารบางประเภทอย่าง หอยแครงลวกมักใช้เวลาลวกไม่ถึง 2 นาที ก็ควรใช้ความร้อนให้ถึงเพื่อฆ่าเชื้อ
“การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาหารทะเลที่มีการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าของบริษัทประมง ลงทุนด้านสุขภิบาลด้านห้องสุขาและน้ำสะอาด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์ของอาหารทะเลไปมากกว่านี้ จนต่างประเทศตีกลับสินค้า ซึ่งหากเป็นการออกมาเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีทางเสนอก็เป็นเรื่องไม่ดี แต่เรื่องดังกล่าวมีทางแก้ไข ซึ่งสามารถป้องกันได้ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับสุขภาพของประชาชนลามไปจนถึงเศรษฐกิจของประเทศจากการส่งออกสินค้าอาหารทะเล”นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นห่วงของสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาตกโรค จากสถิติในปี 2549 มีผู้ป่วยเพียง 35 ราย ต่อมาปี 2551 มีผู้ป่วย 248 ราย และในปี 2552 ตั้งแต่ต้นปีถึง 3 ธ.ค.มีผู้แล้วกว่า 212 ราย และคาดการณ์ว่าในปี 2553 จะมีผู้ป่วยหลักพันคน ทั้งนี้เนื่องจากพบว่าพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคอหิวาต์ มากที่สุดของไทยได้แก่ จ.ปัตตานีในปี 2552 มีผู้ป่วยกว่า 205 รายจากผู้ป่วยทั้งหมด โดยเชื้อจะปนเปื้อนกับอุจจาระอยู่บริเวณน้ำกร่อย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการทำอาชีพประมง ซึ่งสุขลักษณะด้านส้วมและน้ำสะอาดมักไม่ดี
“เมื่อชาวประมงที่มีเชื้ออหิวาต์ถ่ายลงน้ำทะเล จากนั้นเชื้อก็จะไปเกาะกับสาหร่าย และสัตว์น้ำทะเล โดยพบเชื้อมากสุดคือ หอยแครง รองมาเป็นปู และปลา เมื่อคนทานสัตว์น้ำเหล่านี้โดยไม่สุก ทำให้ได้รับเชื้อดังกล่าวไปด้วย ในส่วนของจังหวัดที่ไม่มีการทำอาชีพประมงก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งในปีหน้าคาดว่าภาคอีสานและเหนือจะได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากการส่งอาหารทะเลที่ปนเปื้อนไปทาน การย้ายของแรงงานต่างด้าว รวมถึงกระแสน้ำในอ่าวไทย เพราะเมื่อส้วมไม่ถูกลักษณะ อุจจาระก็ถูกทิ้งลงทะเล แล้วเมื่อจับสัตว์ทะเลก็นำน้ำทะเลมาล้าง ซึ่งอาจเกิดการปนเปื้อนได้”นพ.คำนวณ กล่าว
นพ.คำนวณ กล่าวว่า นอกจากนี้ผู้รับผิดชอบในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการทำแพปลา อาทิ จ.สมุทรสาคร ปัตตานี ระยอง ที่มีแรงงานต่างด้าวควรจัดส้วมและน้ำสะอาดเพื่อให้ถูกสุขลักษณะ เพราะเชื้ออหิวาต์สามารถป้องกันได้ด้วยสุขลักษณะ ทั้งนี้หากทำส้วมก็ไม่ควรเก็บเงินค่าใช้บริการ เพราะแรงงานต่างด้าวจะไม่เข้าสุขาที่เสียค่าบริการ นอกจากนี้เชื้ออหิวาต์สามารถตายได้โดยความร้อน โดยทำให้อาหารสุดอย่างน้อย 2 นาที แต่อาหารบางประเภทอย่าง หอยแครงลวกมักใช้เวลาลวกไม่ถึง 2 นาที ก็ควรใช้ความร้อนให้ถึงเพื่อฆ่าเชื้อ
“การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอาหารทะเลที่มีการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าของบริษัทประมง ลงทุนด้านสุขภิบาลด้านห้องสุขาและน้ำสะอาด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนเชื้ออหิวาต์ของอาหารทะเลไปมากกว่านี้ จนต่างประเทศตีกลับสินค้า ซึ่งหากเป็นการออกมาเปิดเผยข้อมูลโดยไม่มีทางเสนอก็เป็นเรื่องไม่ดี แต่เรื่องดังกล่าวมีทางแก้ไข ซึ่งสามารถป้องกันได้ ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับสุขภาพของประชาชนลามไปจนถึงเศรษฐกิจของประเทศจากการส่งออกสินค้าอาหารทะเล”นพ.คำนวณ กล่าว
