เอ็นจีโอเอดส์เตรียมเข้าพบคณะอนุกรรมการยาจำเป็นฯ ให้เสนอภาครัฐขอยืดอายุซีแอลยาเอดส์ 2 รายการ จนกว่าจะหมดอายุของสิทธิบัตรยา วอนรัฐบาลเห็นแก่ชีวิตคนมากกว่าเศรษฐกิจและการค้า
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้จะเดินทางเข้าให้ข้อมูลเรื่องยาต้านไวรัสเอดส์สูตรสำรอง เอฟฟาไวเรนซ์ และ ยาสูตรผสมระหว่างโลพินาเวียร์กับริโทนาเวียร์ หรือชื่อทางการค้าว่า คาเร็ตต้า กับทางคณะอนุกรรมการคัดเลือกยาและเวชภัณฑ์ที่มีความจำเป็นและมีปัญหาการการเข้าถึงของประชาชน ในระบบหลักประกันสุขภาพ ที่มี ภญ.สำลี ใจดี เป็นประธาน โดยจะเสนอทางภาครัฐมีการดำเนินการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) ต่อไป เนื่องจากยาทั้ง 2 รายการใกล้จะหมดอายุซีแอลแล้ว
นายนิมิตร์ กล่าวต่อว่า ยาเอฟฟาไวเรนซ์ มีผู้ใช้ยาดังกล่าวประมาณ 4 หมื่นคน โดยซีแอลหมดอายุในเดือน พ.ย. 2554 ขณะที่สิทธิบัตรยาหมดประมาณปี 2556 ส่วนยาคาเร็ตต้า มีผู้ใช้ยาดังกล่าวประมาณ 1 หมื่นคน โดยซีแอลหมดอายุ ม.ค. 2555 แต่สิทธิบัตรหมดอายุปี 2564 ซึ่งในการเข้าให้ข้อมูลในครั้งนี้ทางคณะอนุกรรมการฯ ได้ให้เข้าไปชี้แจงข้อมูลการใช้ยาดังกล่าว ทั้งผลดีและผลเสีย จำนวนคนใช้ยา ปริมาณการใช้ยาหลังจากที่มีกาประกาศซีแอล
“มูลนิธิฯไม่ได้หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะเพื่อหวังให้ใช้ซีแอลตั้งแต่ต้น แต่เป็นการที่คณะอนุกรรมการฯได้หาทางออกกับเรื่องดังกล่าวว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นอาจเจรจากับบริษัทยาว่าจะสามารถลดราคาให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและเป็นสินค้าคุณธรรมได้หรือไม่ ถ้าหากบริษัทยาไม่ยอมลดราคาก็คงต้องขอให้ยืดอายุซีแอลยาไปจนกว่าจะหมดอายุสิทธิบัตรยาชนิดนั้น ทั้งนี้ได้แต่หวังว่ารัฐบาลและนักการเมืองคงเห็นแก่เรื่องชีวิตคนมากกว่าเศรษฐกิจและการค้า”นายนิมิตร์ กล่าว
