xs
xsm
sm
md
lg

“อาหารสุขภาพจากธรรมชาติ” ดี-ไม่ดี? หรือแค่กระแสไฟไหม้ฟาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
กระแสสุขภาพที่มีแนวโน้มไปในด้านการป้องกันมากกว่าการักษา โดยเฉพาะในมิติของการเลือกกินแต่ของดีมีประโยชน์ยังคงมาแรงไม่เลิก คำว่า “คุณค่าอาหารจากธรรมชาติ” เป็นคำที่แทบทุกคนคุ้นหู ด้วยทั้งจากการรณรงค์และสื่อโฆษณาต่างๆ ทำให้ผู้ที่กำลังสนใจอยากดูแลสุขภาพจำนวนไม่น้อยเกิดความกังขาในใจว่า กระแส “อาหารสุขภาพ” นี้ มันดีจริงหรือ???

เมื่อไม่นานมานี้ ชมรมโภชนวิทยามหิดล จัดเสวนาเปิดมุมมองกระแสความคิดเรื่อง “อาหารธรรมชาติ... ดีจริงหรือแค่กระแส?” หลังกระแสรักสุขภาพยังแรงไม่เลิก นิยมหันมาบริโภคอาหารและเครื่องดื่มจากธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธัญญาหารยอดฮิต งาดำ ถั่วเหลือง ลูกเดือย จมูกข้าวสาลี มอลต์ ทั้งยังหันมาดื่มเครื่องดื่มที่มีนมโคเพื่อเพิ่มแคลเซียม วิตามินและเกลือแร่ ส่งผลให้มีการนำมาแปรรูปหลากหลายรูปแบบแนะผู้บริโภคเลือกกินเลือกซื้ออย่างถูกหลัก อ่านรายละเดอียดฉลากอาหาร เพื่อให้ได้คุณค่าและประโยชน์อย่างแท้จริง

ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า กระแสอาหารธรรมชาติมีมานานแล้ว แต่จะเงียบหายไปเป็นบางช่วง เช่น การกินน้ำข้าวอาร์ซี โรยงาผสมในข้าว ดื่มน้ำข้าวกล้องงอก เป็นต้น จนปัจจุบันกระแสนี้ค่อยๆ แพร่หลายมากขึ้น เพราะคนไทยเริ่มใส่ใจตัวเองและมีปัญหาด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งอาหารธรรมชาติหรือธัญญาหารที่กำลังมาแรงในเมืองไทย ได้แก่ ข้าวกล้อง งาดำ ถั่วเหลือง ข้าวโอ๊ต มอลต์ ลูกเดือย และจมูกข้าวสาลี เพราะธัญญาหารเหล่านี้เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุ ทั้งวิตามินเอ บี1 บี2 บี12 แคลเซียม ธาตุเหล็ก โฟเลท ไอโอดีน และมีใยอาหารสูง หลายคนนำมาเติมในเมนูอาหารและเครื่องดื่ม แต่ส่วนใหญ่จะเลือกแบบแปรรูปสำเร็จเป็นเครื่องดื่ม หรืออาหารเสริมมากกว่า เพราะจากข้อมูลคนยุคใหม่จะไม่ทำอาหาร ทำให้เทรนด์ในอนาคตอาจมาควบคู่กับเทคโนโลยีการแปรรูปที่สูงขึ้น และหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็น่าจะกลายเป็นเทรนด์ฮิตได้อย่างแน่นอน
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
“ปัจจุบันอาหารธรรมชาติมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ทั้งในรูปแบบเมล็ดแห้งบรรจุห่อ หรือแบบแบ่งขายตามท้องตลาด ตลอดจนเครื่องดื่มธัญญาหารเพื่อสุขภาพแบบสำเร็จหรือกึ่งสำเร็จรูป ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีทางการอาหารก้าวหน้าถึงขั้นนำธัญญาหารมาบดละเอียดจนเนียนเป็นน้ำ ทำให้มีใยอาหาร แต่ปริมาณใยอาหารจะเพียงพอ เราต้องดูฉลากควบคู่กันไป หากเพียงพอสามารถดื่มแทนการกินแบบเมล็ดได้”

นอกจากนี้ เครื่องดื่มที่เลือกต้องมีไขมันต่ำและหวานน้อย การอ่านรายละเอียดฉลากอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อ ส่วนกรณีเมล็ดแห้งต้องดูบรรจุภัณฑ์ วันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ เครื่องหมายมาตรฐานอาหาร บริษัทที่ผลิตต้องน่าเชื่อถือ และไม่ควรซื้อมาเก็บไว้ในปริมาณมากๆ เพราะจะทำให้ธัญญาหารต่างๆ ลดคุณค่าลง หรืออาจเกิดเชื้อราได้

อย่างไรก็ตาม กระแสนิยมก็ยังมีคนเชื่อแบบผิดๆ จึงไม่ควรตามกระแสมากเกินไป กินแบบพอดีครบ 5 หมู่ ครบทุกมื้อ กินผักผลไม้มากขึ้น หันมากินธัญญาหาร หรือเครื่องดื่มธัญญาหารแบบสำเร็จเพื่อเพิ่มเส้นใยให้ขับถ่ายง่ายและช่วยลดคอเลสเตอรอล ซึ่งหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป เพราะปกติร่างกายควรได้รับปริมาณใยอาหาร 20-25 กรัมต่อวัน หากมากเกินไปกากใยจะไปดูดสารอาหารอื่นๆ ดังนั้น เดินสายกลางตามหลักโภชนาการเป็นดีที่สุด

ด้าน รศ.พญ.ชุติมา ศิริกุลชยานนท์ ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ และประธานโครงการเด็กไทยดูดีและมีพลานามัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า อาหารธรรมชาติ คือ อาหารที่ได้รับการปลูกและเติบโตตามธรรมชาติไม่มีการเติมสารเคมีใดๆ หากพูดตามหลักโภชนาการจะต้องเป็นอาหารครบ 5 หมู่ ประกอบด้วย ข้าว แป้งขัดสีน้อย ธัญญาหาร เนื้อสัตว์ ผักผลไม้ และไขมัน การนำมาประกอบอาหารจะต้องสุก สะอาด และสงวนคุณค่าทางโภชนาการ

“การเลือกซื้ออาหารธรรมชาติ ขนมและเครื่องดื่มแปรรูปต่างๆ ควรยึดหลัก 3 ป. ในการเลือกซื้อ คือ ป.-ปลอดภัย กินแล้วไม่มีโทษต่อร่างกาย สะอาด ไม่มีสีฉูดฉาด บรรจุภัณฑ์มิดชิด ดูฉลาก และส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไม่มีวัตถุกันเสีย และสารปนเปื้อนต่อสุขภาพ ป.-ประโยชน์ สอนให้เด็กรู้จักเปรียบเทียบคุณค่าอาหารทางโภชนาการ และ ป.-ประหยัด สอนให้เด็กรู้จักคิดก่อนซื้อว่าสิ่งใดคุ้มค่าเงินที่จะจ่ายหรือไม่ โดยเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกัน ที่สำคัญต้องพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้ประ โยชน์ที่ได้รับ และความคุ้มค่า” รศ.พญ.ชุติมา กล่าวในที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น