สธ.จัดโครงการ “สนองน้ำพระทัยในหลวงห่วงใยสุขภาพประชาชน” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 ระดมแพทย์ พยาบาล อสม. ดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ ส่วนการจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ในโครงการไทยเข้มแข็งสั่งเร่งทบทวนราคาและการสอบทุจริตให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงโครงการ “สนองน้ำพระทัยในหลวงห่วงใยสุขภาพประชาชน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 และประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ทั่วประเทศรับทราบด้วย
นายวิทยา กล่าวว่า ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศ 200,000 คน อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) อีก 970,000 คน ให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ โดยในวันที่ 3 -5 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณถนนราชดำเนินในทุกกิจกรรมของ สธ. จะนำรถโมบายตรวจรักษาตา ให้บริการประชาชนฟรี ซึ่งจะสามารถตรวจคัดกรองโรคเบาหวานขึ้นตา เพื่อรักษาอาการตาบอดจากโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดทำโครงการตรวจคัดกรองหาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งถือเป็นโรคไม่ติดต่อแต่เป็นเรื้อรังหลังจากพบประชาชนป่วยจากโรคดังกล่าวเพิ่มถึง 4 เท่า ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้มีการตรวจคัดกรองเพื่อนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา ร้อยละ 90
จากข้อมูลของกระทรวงฯ ในปี 2550 พบว่ามีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 2.4 ล้านคน ส่วนโรคเบาหวาน สำรวจเมื่อปี 2551 พบผู้ป่วยรายใหม่ 338,551 คน เสียชีวิต 7,725 คน คาดว่ามีอีก 3 ล้านคนที่ป่วยแต่ยังไม่ได้รับการรักษา
นอกจากนี้ สธ.ยังจัดโครงการคัดกรองผู้สูงอายุเพื่อเป็นต้นแบบโดยจะนำผู้สูงอายุที่มีอายุ 82 ปี เกิดปี พ.ศ.2470 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่แข็งแรง ไม่มีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และกลุ่มที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง เพื่อนำมาปรับพฤติกรรมรักษาให้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น รวมทั้งการสำรวจผู้พิการเพื่อขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ และโครงการ 1 ล้านดวงใจ อสม.และพยาบาล ปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น ถวายเป็นพระราชกุศล โดยจะมีการนำต้นไม้ให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปปลูกที่บ้านของตนเอง เพื่อสร้างสีเขียวและความร่มรื่นให้แผ่นดิน
ทั้งนี้ นายวิทยา ได้ชี้แจงต่อนายแพทย์ สสจ.ทั่วประเทศ ถึงการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ในโครงการไทยเข้มแข็งว่า ขณะนี้ได้เร่งให้คณะกรรมการทบทวนราคาการจัดซื้อในโครงการฯ ให้เร่งดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว และจะเร่งประสานกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด นพ.บรรลุ ศิริพานิช เพื่อดูว่าสามารถเดินหน้าในโครงการในสิ่งใดได้บ้าง เพราะขณะนี้งบประมาณไทยเข้มแข็งหลายกระทรวงเดินหน้าไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงกระทรวง สธ.ซึ่งเห็นว่าจะต้องเร่งดำเนินการพิจารณาทั้งราคาและสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ต่อไป
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงโครงการ “สนองน้ำพระทัยในหลวงห่วงใยสุขภาพประชาชน” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 และประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.)ทั่วประเทศรับทราบด้วย
นายวิทยา กล่าวว่า ในกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีการระดมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศ 200,000 คน อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) อีก 970,000 คน ให้บริการดูแลสุขภาพประชาชนทั่วประเทศ โดยในวันที่ 3 -5 ธ.ค.นี้ ที่บริเวณถนนราชดำเนินในทุกกิจกรรมของ สธ. จะนำรถโมบายตรวจรักษาตา ให้บริการประชาชนฟรี ซึ่งจะสามารถตรวจคัดกรองโรคเบาหวานขึ้นตา เพื่อรักษาอาการตาบอดจากโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดทำโครงการตรวจคัดกรองหาโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ซึ่งถือเป็นโรคไม่ติดต่อแต่เป็นเรื้อรังหลังจากพบประชาชนป่วยจากโรคดังกล่าวเพิ่มถึง 4 เท่า ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้มีการตรวจคัดกรองเพื่อนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษา ร้อยละ 90
จากข้อมูลของกระทรวงฯ ในปี 2550 พบว่ามีผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 2.4 ล้านคน ส่วนโรคเบาหวาน สำรวจเมื่อปี 2551 พบผู้ป่วยรายใหม่ 338,551 คน เสียชีวิต 7,725 คน คาดว่ามีอีก 3 ล้านคนที่ป่วยแต่ยังไม่ได้รับการรักษา
นอกจากนี้ สธ.ยังจัดโครงการคัดกรองผู้สูงอายุเพื่อเป็นต้นแบบโดยจะนำผู้สูงอายุที่มีอายุ 82 ปี เกิดปี พ.ศ.2470 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่แข็งแรง ไม่มีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และกลุ่มที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง เพื่อนำมาปรับพฤติกรรมรักษาให้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น รวมทั้งการสำรวจผู้พิการเพื่อขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ และโครงการ 1 ล้านดวงใจ อสม.และพยาบาล ปลูกต้นไม้ 2 ล้านต้น ถวายเป็นพระราชกุศล โดยจะมีการนำต้นไม้ให้บุคลากรทางการแพทย์นำไปปลูกที่บ้านของตนเอง เพื่อสร้างสีเขียวและความร่มรื่นให้แผ่นดิน
ทั้งนี้ นายวิทยา ได้ชี้แจงต่อนายแพทย์ สสจ.ทั่วประเทศ ถึงการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ในโครงการไทยเข้มแข็งว่า ขณะนี้ได้เร่งให้คณะกรรมการทบทวนราคาการจัดซื้อในโครงการฯ ให้เร่งดำเนินการแล้วเสร็จโดยเร็ว และจะเร่งประสานกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุด นพ.บรรลุ ศิริพานิช เพื่อดูว่าสามารถเดินหน้าในโครงการในสิ่งใดได้บ้าง เพราะขณะนี้งบประมาณไทยเข้มแข็งหลายกระทรวงเดินหน้าไปเกือบหมดแล้ว เหลือเพียงกระทรวง สธ.ซึ่งเห็นว่าจะต้องเร่งดำเนินการพิจารณาทั้งราคาและสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายในวันที่ 30 พ.ย.นี้ เพื่อเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ต่อไป
