xs
xsm
sm
md
lg

“ธีระชน” กลุ้ม ครม.จี้อีอ็อกชันงบไทยเข้มแข็ง-หวั่นเสนอโครงการไม่ทัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กทม.เร่งเสนอแผนใช้งบประมาณไทยเข้มแข็ง 2,447 ล้านบาท แต่กลุ้มเหตุ ครม.จี้อีอ็อกชัน-เบิกงบภายใน 28 วัน “ธีระชน” หวั่นเสนอโครงการไม่ทัน

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงงบประมาณที่กทม.ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวนเงิน 2,447 ล้านบาท ซึ่งกทม.มีแผนการใช้งบประมาณ 4 ด้าน ได้แก่ 1.โครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 780 ล้านบาท

ประกอบด้วย โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหากัดเซาะชายทะเลบางขุนเทียน 380 ล้านบาท โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์เมือง รอบอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน รอบสนามหลวง เพิ่มพื้นที่สีเขียว 2.โครงการเพิ่มความปลอดภัย แก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) จำนวน 500 ล้านบาท ในพื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร 3.โครงการปรับปรุงโรงเรียนให้เป็นมาตรฐาน 567 ล้านบาท เช่น การก่อสร้างอาคารโรงเรียน 14 โรงเรียน ปรับปรุงห้องสมุด ปรับปรุงโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ และ 4.โครงการพัฒนากรุงเทพมหานคร 600 ล้านบาท เช่น การปรับปรุงภูมิทัศน์ ถนน ตรอก ซอย โครงการจัดทำแผนฟื้นฟูและพัฒนาการเดินเรือย่านฝั่งธนบุรีเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ขั้นตอนการดำเนินการจากนี้ให้สำนักงบประมาณเตรียมทำรายละเอียดโครงการ พร้อมแผนการใช้จ่ายเงิน ให้สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรีเห็นชอบ ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภาในเดือนธันวาคม เมื่อได้รับอนุมัติโครงการจะได้รับงบประมาณในเดือนมกราคม 2553 จากนั้น กทม.จะต้องก่อหนี้ภายใน 15 วัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553

นายธีระชน กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ยังต้องรอขั้นตอนให้ทางรัฐบาลนำเสนอมติ ครม.ดังกล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาอนุมัติในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และในระหว่างนั้น กทม.โดยสำนักงบประมาณจะต้องทำบันทึกข้อมูลรายละเอียดโครงการพร้อมแผนการใช้จ่ายงบฯ ส่งให้สำนักงบประมาณ สำนักนายกฯ เห็นชอบก่อนเสนอเข้าสภา และเมื่อรัฐสภาเห็นชอบแล้วก็คาดว่ารัฐบาลจะสามารถจัดสรรงบฯ ให้ กทม.ได้ภายในเดือน ม.ค.2553

อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดตามมติ ครม.ครั้งนี้ ที่ระบุให้หน่วยงานที่ได้รับงบฯ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนพัสดุ โดยจะต้องเริ่มสรรหาผู้รับเหมาผ่านระบบการประมูลทางอิเล็กทรอนิคส์ (E-Auction) เพื่อให้สามารถก่อหนี้ได้หลังจากได้รับจัดสรรงบฯ แล้วภายในระยะเวลา 15 วัน ส่วนการประมูลกำหนดให้อยู่ในกรอบเวลา 28 วัน จากเดิมที่กำหนดไว้ 85 วัน และต้องดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2553 ซึ่งถือว่าเป็นกรอบการที่ค่อนข้างเร่งรีบ ที่ประชุมจึงกำชับทุกหน่วยงานให้ดำเนินการอย่างรอบคอบที่สุด

นานยธีระชนกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้อาจมีบางโครงการที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลา เนื่องจากที่ผ่านมายังติดปัญหาและยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เช่น โครงการก่อสร้างเขื่อนสลายกำลังคลื่นป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งบางขุนเทียน หรือการจัดซื้อกล้องวงจรร ปิด เป็นต้น

เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.มีปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดซื้อผ่านระบบอีอ็อกชัน ทำให้การดำเนินงานค่อนข้างล่าช้า พร้อมยกตัวอย่างกรณีกทม.เพิ่งได้รับมอบกล้องซีซีทีวีจำนวน 3,000 กว่าตัว มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท จากโครงการในสมัยอดีตผู้ว่าฯ สมัคร สุนทรเวช เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

กำลังโหลดความคิดเห็น