รมว.สาธารณสุข เผยความก้าวหน้าโครงการยิ้มสวย เสียงใส ผ่าตัดแก้ไขความพิการเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ฟรีทั่วประเทศ รอบ 4 ปี ผ่าตัดไปแล้ว 5,300 ราย รอผ่าตัดอีก 376 ราย คาดว่า จะเสร็จสิ้นใน มี.ค.ปีหน้า มั่นใจจากนี้ไปจะไม่มีเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ตกค้างรักษาอีก
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดโครงการ “ยิ้มสวย เสียงใส” ปีที่ 5 ที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อเทิดพระเกียรติ 50 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า หลังจากที่กระทรวง สภากาชาดไทย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดโครงการยิ้มสวย เสียงใส พ.ศ.2548-2553 จัดบริการผ่าตัดแก้ไขความพิการฟรีให้เด็กแรกเกิดที่มีปัญหาปากแหว่งเพดานโหว่และเข้าไม่ถึงบริการการรักษา เพื่อให้ได้รับการดูแลแก้ไข ให้มีคุณภาพชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ใช้งบประมาณ 31 ล้านบาท
ผลการดำเนินการจนถึงขณะนี้รวม 4 ปี มีเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ที่เกิดตั้งแต่ 1 ม.ค.2548-30 ก.ย.2551 ขึ้นทะเบียนในโครงการ 5,676 ราย ได้รับการผ่าตัดไปแล้ว 5,300 ราย ที่เหลืออีก 376 ราย จะผ่าตัดแล้วเสร็จในเดือน มี.ค.2553 มั่นใจจากนี้ไป จะไม่มีเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ตกค้างรักษาอีก เด็กที่เกิดใหม่ทุกรายที่มีปัญหาดังกล่าวจะเข้าสู่ระบบการดูแลต่อเนื่อง โดยมีโรงพยาบาลที่สามารถทำผ่าตัด ฟื้นฟูจนถึงการฝึกพูด จำนวน 42 แห่ง
นายวิทยา กล่าวว่า โรคปากแหว่ง เพดานโหว่ เป็นความพิการของใบหน้าที่พบมากที่สุด ปีละประมาณ 2,000 คน ส่วนใหญ่พบในครอบครัวที่มีฐานะยากจน โดยพบเด็กปากแหว่งได้ 1 ใน 600 ของเด็กแรกเกิด ส่วนเพดานโหว่พบได้ 1 ใน 2,500 ของเด็กแรกเกิด การรักษาให้ได้ผลดี คือ การผ่าตัดเย็บปิดรอยแหว่ง และช่องโหว่ที่เพดานปาก โดยเด็กปากแหว่งควรได้รับการผ่าตัดเมื่ออายุ 3-6 เดือน ส่วนเด็กเพดานโหว่ควรผ่าตัดเมื่ออายุ 9 เดือน-1 ขวบครึ่ง หากได้รับการผ่าตัดช้า จะทำให้การฝึกพูดให้ชัดเจนเหมือนคนปกติเป็นไปได้ยาก