กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนหญิงและภาคีรัฐ-เอกชน ประกาศปฏิญญายุติความรุนแรงในเด็กและสตรี เนื่องในวันที่ 25 พ.ย.ของทุกปี ที่องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล สำหรับไทย คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เดือน พ.ย.ของทุกปีเป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการ พม.ได้นำเดินขบวนยุติความรุนแรงฯ จากด้านหน้า รพ.ราชวิถี ไปตามถนนราชวิถี สิ้นสุดที่สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี พร้อมขึ้นเป็นผู้นำในการประกาศปฏิญญาว่าด้วยการยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี และความรุนแรงในครอบครัว 10 ประการ เช่น เด็กและสตรี บุคคลในครอบครัวพึงได้รับการคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความรุนแรง และมีสิทธิได้รับการบำบัดรักษา กลไกที่กฎหมายระบุไว้ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ต้องได้รับการสนับสนุน จะสนับสนุนความร่วมมือเพื่อคุ้มครองจากการกระทำความรุนแรงทุกรูปแบบ ส่งเสริมความเสมอภาคชายหญิง ส่งเสริม สนับสนุนบทบาทของเด็ก สตรี และครอบครัวให้เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกัน ขจัดการความรุนแรง เป็นต้น
ด้านมูลนิธิเพื่อนหญิง เปิดเผยข้อมูลของศูนย์พึ่งได้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปี 2551 พบว่า มีเด็กและสตรีถูกทำร้ายมารักษาที่โรงพยาบาล จำนวน 26,565 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 73 ราย หรือ 1 ราย ในทุก 20 นาที คนกระทำคือคนใกล้ชิด สามีและคนในครอบครัวมากถึงร้อยละ 80 เพิ่มจากปี 2550
นายอิสสระกล่าวเพิ่มเติมว่า ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ทุกคนต้องมีส่วนร่วมดูแลซึ่งกันและกัน หากพบเห็นเด็กและสตรีถูกทำร้ายสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์ประชาบดี 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง
