xs
xsm
sm
md
lg

ศจย.เตรียมร่อนหนังสือจี้ “กรณ์-วิทยา” ขึ้นภาษี-สกัดบุหรี่มวนเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศจย. เตรียมร่อนหนังสือถึง “กรณ์-วิทยา” คุมบุหรี่มวนเอง สกัดสิงห์อมควัน เสนอขึ้นภาษียาเส้นจาก 5เป็น10 บาท จำกัดพื้นที่เพาะปลูก แนะติดป้ายเตือนภัยบนฉลากให้ ปชช.รู้ทัน ปรับ พ.ร.บ.ใหม่เพิ่มแหล่งปลอดบุหรี่ ห้ามยาเส้นเป็นสินค้าโอทอป แนะ สธ.-สปสช. เพิ่มช่องทางเลิกบุหรี่
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
ดร.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า จากการประชุมนักวิจัยเชิงนโยบายและประเมินผลด้านการควบคุมยาสูบ ซึ่งศจย.ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และคณะมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น โดยมีนักวิจัยเข้าร่วมกว่า 300 คน เพื่อหาแนวทางการควบคุมบุหรี่มวนเอง เนื่องจากผู้สูบบุหรี่มวนเองมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ต่อเดือนมีผู้สูบบุหรี่มวนเองสูงถึงร้อยละ 27.6 จึงควรมีข้อเสนอให้กับกระทรวงการคลังดำเนินการดังนี้1.จำกัดเขตพื้นที่ที่เพาะปลูกใบยาสูบและตรวจจับเกษตรกรที่ลักลอบปลูกเกินโควตา 2.เพิ่มภาษียาเส้นแบบซองจาก 5 บาท เป็น 10 บาท ร่วมทั้งยกเลิก การยกเว้นภาษียาเส้นพันธุ์พื้นเมือง 3. แก้กฎหมาย พ.ร.บ.ยาสูบ โดยองค์กรส่วนปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถออกข้อบัญญัติในการบังคับลงโทษ ปรับ และค่าปรับดังกล่าวให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตค้าปลีก ยาสูบทุกประเภท โดยในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ศจย.จะนำข้อเสนอและรายละเอียดทั้งหมดยื่นให้กับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง

ดร.ศิริวรรณ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ คือ 1.ประเมินผลการปฏิบัติตามประกาศกระทรวง เรื่องการติดป้ายคำเตือนบนฉลากผลิตภัณฑ์ และเร่งรัดให้ปฏิบัติตามให้ได้ 100% 2.ให้แก้กฎหมาย พ.ร.บ. การควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ และพ.ร.บ. คุ้มครองผู้ไม่สูบบุหรี่โดยเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการตรวจ จับ และปรับผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ซึ่งค่าปรับดังกล่าวให้เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 3.ปรับปรุงประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มสถานที่ปลอดบุหรี่ โดยข้อเสนอดังกล่าวจะยื่นให้กับ นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข พิจารณาในวันที่ 25 พ.ย.เช่นเดียวกัน

“การเพิ่มราคายาเส้นแบบซอง จาก 5 บาท เป็น 10 บาท จะทำให้ผู้สูบ 5.12 ล้านคน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากสัปดาห์ละ 33 บาท เป็น 66 บาท ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดจำนวนผู้สูบทั้งรายเก่าและรายใหม่ได้ ที่สำคัญเมื่อมีผู้สูบลดลงกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) อาจต้องเตรียมรองรับ ในการเพิ่มบริการให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่ในระดับตำบล มีคลินิกอดบุหรี่ในโรงพยาบาล พร้อมทั้งสำรองยาช่วยเลิกบุหรี่ และบริการสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 นอกจากนี้ ควรเพิ่มมาตรการในชุมชนโดยการออกรณรงค์ให้รู้ถึงพิษภัยยาเส้น ลงโทษผู้สูบบุหรี่ในสถานที่ห้ามสูบ และไม่สนับสนุนบุหรี่มวนเองเป็นสินค้า OTOP” ดร.ศิริวรรณ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น